ซิทัส โปรโตคอล แพลตฟอร์มดีแฟที่พัฒนาอยู่บนเครือข่ายซุย(SUI) ประกาศจะชดเชยความเสียหาย *เต็มจำนวน* แก่ผู้ใช้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แฮกครั้งใหญ่ มูลค่ากว่า *223 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* โดยแผนการชดเชยนี้จะขึ้นอยู่กับการโหวตของชุมชน และดำเนินการภายใต้การสนับสนุนด้านสภาพคล่องจาก *มูลนิธิซุย* รวมถึงการเรียกคืนทรัพย์สินที่ถูกแช่แข็ง ซึ่งมีมูลค่าราว *162 ล้านดอลลาร์สหรัฐ*
เหตุการณ์แฮกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ซิทัสโปรโตคอลตรวจพบช่องโหว่ที่ *คลังสภาพคล่องรูปแบบ CLMM (Concentrated Liquidity Market Maker)* และถูกแฮกเกอร์จู่โจมทันทีที่ช่องโหว่ถูกรู้ตัว ทางโปรโตคอลได้รีบปิดการใช้งานคอนแทรกต์ที่มีปัญหา และทำงานร่วมกับผู้ตรวจสอบธุรกรรมในเครือข่ายซุยเพื่อสั่งแช่แข็งกระเป๋าที่เกี่ยวข้องกับแฮกเกอร์จำนวน 2 ใบ
ทางทีมซิทัสระบุผ่านแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ว่า “การชดเชยจะขึ้นอยู่กับผลการโหวตของชุมชน เราขอการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้ใช้งานเพื่อลงมติเห็นชอบในการเรียกคืนเงินทุน” โดยการดำเนินการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก *จ้าว ฉางเผิง* ผู้ก่อตั้ง *ไบแนนซ์*
สำหรับรายละเอียดเชิงเทคนิค แฮกเกอร์อาศัยข้อบกพร่องในกลไกตรวจสอบการล้นตัวแปร (Overflow Check) ของซิทัส ในขณะจัดการสภาพคล่องภายในพูล ซึ่งนำไปสู่การถอนเหรียญคริปโตบนเครือข่ายอีเธอเรียมกว่า *60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* ปัจจุบัน การสืบสวนกำลังดำเนินการโดยหน่วยงานด้านกฎหมาย มูลนิธิซุย และบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์ *INCA Digital*
ซิทัสยังเสนอ *ค่าหัว 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* สำหรับผู้ที่ให้เบาะแสนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิด
ผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ทำให้เหรียญบนเครือข่ายซุิตกลงอย่างรุนแรง โดย *LBTC* และ *AXOL* ร่วงลงจนเกือบไม่มีมูลค่า ด้าน *LOFI* และ *HIPPO* ตกลงมากกว่า *80%* ความผันผวนนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของโปรเจกต์คริปโตหน้าใหม่และความสำคัญของมาตรการด้านความปลอดภัยในระบบดีแฟ
ความคิดเห็น 0