จำนวนที่อยู่บิตคอยน์(BTC) ที่ถือครองเหรียญลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน ท่ามกลางแรงขายจากนักลงทุนรายย่อย ขณะที่นักลงทุนสถาบันยังคงไหลออกจากตลาด และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคส่งผลกระทบต่อตลาดโดยรวม
จากข้อมูลของ Glassnode บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลออนเชน พบว่าจำนวนที่อยู่กระเป๋าบิตคอยน์ที่มีเหรียญคงเหลือมากกว่า 0 ลดลงต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เหลือเพียง 52.45 ล้านที่อยู่ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 เทียบกับเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่บิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดที่ 109,000 ดอลลาร์ ในขณะนั้นมีที่อยู่กระเป๋ามากถึง 52.56 ล้านที่อยู่
ขณะเดียวกัน การไหลออกของเงินทุนจาก ETF บิตคอยน์ในสหรัฐฯ กำลังกดดันตลาด โดยข้อมูลจาก Farside Investors บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลการลงทุนในคริปโต เผยว่า ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ มีเงินทุนไหลออกจาก ETF บิตคอยน์ในสหรัฐฯ มากถึง 251 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 9,000 ล้านบาท) และเป็นการไหลออกต่อเนื่องเป็นวันที่สาม รวมยอดไหลออกตลอดช่วงเวลาดังกล่าวสูงถึง 494 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 17,800 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนรายใหญ่หรือที่เรียกว่า “วาฬ” กำลังเข้าซื้อบิตคอยน์อย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก IntotheBlock ระบุว่าหลังจากราคาบิตคอยน์ลดลงต่ำกว่า 97,600 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ นักลงทุนกลุ่มนี้ได้ซื้อเพิ่มอีก 39,620 BTC หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.79 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 137,000 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนถึงแรงซื้อที่เกิดขึ้นในช่วงราคาระดับต่ำ
ฮวน เฟลิเซอร์ นักวิเคราะห์อาวุโสจาก IntotheBlock ให้ความเห็นว่า “รูปแบบนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่านักลงทุนรายใหญ่เริ่มเห็นคุณค่าของบิตคอยน์ที่ระดับราคานี้ และอาจเป็นสัญญาณว่าราคากำลังเข้าใกล้จุดต่ำสุด”
อย่างไรก็ตาม การขึ้นไปยืนเหนือระดับ 100,000 ดอลลาร์ ถือเป็นเงื่อนไขสำคัญของการปรับตัวขึ้นระลอกใหม่ อิลิยา คัลเชฟ นักวิเคราะห์จากแพลตฟอร์มกู้ยืมคริปโต Nexo กล่าวว่า “บิตคอยน์จำเป็นต้องสามารถทะลุและยืนอยู่ที่ระดับ 100,000 ดอลลาร์ได้อย่างมั่นคง จึงจะสามารถกลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้นได้อย่างแท้จริง”
อีกด้านหนึ่ง ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระดับโลกกำลังส่งผลกระทบต่ออารมณ์การลงทุน โดยนักลงทุนจับตาการพบปะระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อตลาดเงินและตลาดคริปโตในอนาคต
ความคิดเห็น 0