บริษัทขุดคริปโตในสหรัฐฯ เผชิญปัญหาหลังอุปกรณ์จากบิตเมนล่าช้าเพราะข้อจำกัดทางการค้า
บริษัทขุดคริปโตในสหรัฐฯ กำลังเผชิญความยากลำบากในการรับอุปกรณ์ขุดจากบิตเมน(Bitmain) เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้ากับจีนส่งผลให้กระบวนการตรวจสอบสินค้าล่าช้า
เมื่อวันที่ 24 ตามรายงานของ Bloomberg ระบุว่า สำนักงานศุลกากรและป้องกันชายแดนของสหรัฐฯ (CBP) ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบอุปกรณ์ ASIC และคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงจากจีน ซึ่งทำให้อุปกรณ์ขุดจากบิตเมนติดค้างอยู่ที่ท่าเรือสหรัฐฯ เป็นเวลาหลายเดือน นับตั้งแต่ CBP เริ่มเข้มงวดกับอุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
แรงกดดันนี้เกิดขึ้นจากนโยบายของรัฐบาลไบเดนที่ต้องการจำกัดการนำเข้าชิปขั้นสูงจากจีน โดยเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ได้เพิ่มบริษัทโซฟโก(Sophgo) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับบิตเมน เข้าไปในบัญชีจำกัดทางการค้า ทำให้สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้น
ปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทานนี้กำลังส่งผลต่อศักยภาพการทำกำไรของบริษัทขุดคริปโตในสหรัฐฯ เนื่องจากระดับความยากในการขุดบิตคอยน์(BTC) กำลังเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย
ข้อมูลจากคริปโตควอนท์(CryptoQuant) ระบุว่า ความยากในการขุดบิตคอยน์ได้ทะลุระดับ 114 ล้านล้าน ส่งผลให้บริษัทขุดต้องใช้พลังประมวลผลเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ TheMinerMag รายงานว่าราคาของกำลังขุดลดลงเหลือ 53 ดอลลาร์ต่อเพตาแฮช(Ph/s) ซึ่งส่งผลให้หลายบริษัทที่ใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าพบกับความท้าทายด้านต้นทุน
โดยเฉพาะเครื่องขุดรุ่นเก่าอย่าง แอนท์ไมเนอร์ S19 โปร(Antminer S19 Pro) ซึ่งต้องเผชิญกับต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรลดลง อีกทั้งการที่รางวัลบล็อกของบิตคอยน์ลดลงจาก 6.25 BTC เหลือ 3.125 BTC หลังเหตุการณ์ "Halving" เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้กับธุรกิจขุดคริปโต
เพื่อลดผลกระทบทางการเงิน บางบริษัทจึงเลือกที่จะถือบิตคอยน์ในงบดุลหรือเปลี่ยนโมเดลธุรกิจไปสู่ศูนย์ข้อมูล AI แทน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากความขัดแย้งทางการค้ากับจีนดำเนินต่อไป อุตสาหกรรมขุดคริปโตในสหรัฐฯ อาจเผชิญความยากลำบากยิ่งขึ้นในอนาคต
ความคิดเห็น 0