บิตคอยน์(BTC) พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ประมาณ *111,800 ดอลลาร์* หรือราว *1,554 ล้านบาท* เมื่อเร็วๆ นี้ แต่บรรดานักลงทุนกำลังเผชิญทางเลือกสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางตลาดในระยะสั้น จากข้อมูลของ Glassnode ระบุว่า ราคาซื้อเฉลี่ยของกลุ่มผู้ถือครองระยะสั้นอยู่ที่ราว *97,100 ดอลลาร์* หรือประมาณ *1,349 ล้านบาท*
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า หากบิตคอยน์สามารถทะลุผ่านแนวต้านสำคัญที่ *114,800 ดอลลาร์* ได้ ก็มีโอกาสที่แนวโน้มขาขึ้น (*bull market*) จะดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม หากราคาหล่นต่ำกว่า *83,200 ดอลลาร์* หรือราว *1,156 ล้านบาท* ก็อาจเผชิญกับความเสี่ยงในการเข้าสู่แนวโน้มขาลง
Glassnode รายงานเพิ่มเติมว่า การที่นักลงทุนระยะยาวเริ่มทยอยทำกำไร อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้โมเมนตัมของตลาดเริ่มอ่อนแรง ทั้งนี้ ระดับราคา *114,800 ดอลลาร์, 97,100 ดอลลาร์,* และ *83,200 ดอลลาร์* ถูกมองว่าเป็น ‘จุดชี้ขาด’ ต่อการเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต
ในวันที่ 22 พฤษภาคม บิตคอยน์แตะระดับสูงสุดที่ *112,000 ดอลลาร์* หรือราว *1,556 ล้านบาท* โดย Glassnode ระบุว่า การพุ่งขึ้นครั้งนี้เป็นผลมาจากแรงซื้อในตลาดสปอต (spot market) พร้อมคาดการณ์ว่า บริเวณราคา *81,000–85,000 ดอลลาร์, 93,000–96,000 ดอลลาร์,* และ *102,000–104,000 ดอลลาร์* มีแนวโน้มจะกลายเป็นแนวรับให้กับราคาหากเกิดการย่อตัว
ปัจจุบัน บิตคอยน์มีการซื้อขายอยู่ที่ *104,925 ดอลลาร์* หรือประมาณ *1,458 ล้านบาท* บวกขึ้นมา *1.05% เมื่อเทียบกับวันก่อนหน้า* ซึ่งนับเป็นการฟื้นตัวเล็กน้อยหลังจากราคาลดลงแตะระดับ *100,377 ดอลลาร์* ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
*ความคิดเห็น:* ช่วงราคาที่สำคัญที่นักลงทุนควรจับตาในตอนนี้อาจเป็นตัวชี้เป็นชี้ตายของแนวโน้มตลาดคริปโตในระยะกลาง โดยการเกาะติดระดับการสะสมของนักลงทุนระยะสั้นและการถือต่อของนักลงทุนรายใหญ่จะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในช่วงเวลาที่ราคากำลังเปลี่ยนผ่าน
ความคิดเห็น 0