เพย์พาลประกาศแผนขยายการใช้งานของเหรียญสเตเบิลคอยน์ เพย์พาล ยูเอสดี(PYUSD) ไปยังเครือข่ายสเตลลาร์(XLM) อย่างเป็นทางการ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานของบล็อกเชนและส่งเสริมการใช้งานจริงของสเตเบิลคอยน์ในภาคการเงิน สิ่งนี้นับเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่อาจผลักดันระบบนิเวศของ *สเตลลาร์* และอุตสาหกรรมคริปโตทั้งหมดสู่ความก้าวหน้าอีกขั้น การนำ PYUSD ไปยังสเตลลาร์ยังขึ้นอยู่กับการอนุมัติของสำนักงานบริการทางการเงินแห่งนิวยอร์ก(NYDFS)
อเล็กซ์ คริส(Alex Chriss) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเพย์พาลกล่าวว่า “เมื่อ PYUSD ขยายไปยังสเตลลาร์ เราจะสามารถเข้าถึงนักพัฒนามากขึ้นและเปิดโอกาสใหม่ ๆ เราไม่หยุดอยู่แค่เชนเดียว” พร้อมย้ำถึงความสำคัญของการกระจายการใช้งานเหรียญดังกล่าวให้หลากหลายแพลตฟอร์มมากขึ้น
ในแถลงการณ์ของบริษัท เพย์พาลระบุว่าการตัดสินใจนี้จะช่วยสร้างพื้นฐานในการขยายบริการทางการเงิน เช่น การชำระเงินประจำวัน การโอนเงินระหว่างประเทศ และ PayFi ซึ่งเป็นการผสานระหว่างการเงินกระแสหลักกับดิจิทัลไฟแนนซ์ โดยมี PYUSD เป็นตัวกลางสำคัญ
การนำ PYUSD ไปใช้บนเครือข่ายสเตลลาร์ยังสะท้อนความเป็นไปได้ใหม่ของการทำให้ระบบชำระเงินด้วยคริปโตเข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้มากขึ้น สเตลลาร์มีจุดเด่นในด้านโครงสร้างแบบ On-Off Ramp ที่เชื่อมโยงกับระบบจ่ายเงินท้องถิ่นและเครือข่ายเงินสดทั่วโลก คุณสมบัตินี้จึงเหมาะสมกับการใช้งานของสเตเบิลคอยน์ที่ต้องเน้นทั้งการเข้าถึงและประสิทธิภาพ โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ มูลนิธิสเตลลาร์ยังเปิดเผยว่า ได้ดำเนินธุรกรรมมูลค่าเกือบ 2,790 ล้านวอน (ประมาณ 387 ล้านบาท) ผ่านความร่วมมือกับมันนี่แกรมในโอกาสครบรอบ 3 ปี
ก่อนหน้านี้ เพย์พาลยังได้ขยายความร่วมมือกับบริษัทโคอินเบสในเดือนเมษายน ซึ่งสะท้อนความตั้งใจในการผลักดันการใช้จริงและขยายการกระจายเหรียญ PYUSD บนเครือข่ายต่าง ๆ ความเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทในกลุ่มการชำระเงินทั่วโลก ที่กำลังปรับตัวเพื่อใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลให้มากขึ้นในเศรษฐกิจจริง
ในภาพรวมถือว่า เพย์พาลแสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพที่จะกลับมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นหลักของระบบนิเวศเว็บ3 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้เหรียญสเตเบิลคอยน์เป็นหัวใจหลัก วงการคริปโตจึงจับตาดูว่า การขยายสู่สเตลลาร์ครั้งนี้จะสามารถสร้างผู้ใช้ใหม่และเพิ่มปริมาณธุรกรรมได้จริง หรือไม่
ความคิดเห็น 0