โครงการคริปโต ‘มายบิ๊กคอยน์(My Big Coin)’ ถูกคณะกรรมการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าสหรัฐ (CFTC) สั่งปรับเป็นเงินกว่า 2.58 พันล้านวอนหรือประมาณ 358 ล้านบาท หลังพบว่าใช้รูปแบบแชร์ลูกโซ่หลอกลวงนักลงทุนสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
เมื่อวันที่ 3 (เวลาท้องถิ่น) CFTC เปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า ศาลแขวงของรัฐแมสซาชูเซตส์มีคำวินิจฉัยตัดสินลงโทษบริษัทมายบิ๊กคอยน์เพย์(My Big Coin Pay), มายบิ๊กคอยน์(My Big Coin) รวมถึงผู้ร่วมก่อตั้ง มาร์ก กิลเลสปี(Mark Gillespie) และ จอห์น โรช(John Roche) จากพฤติกรรมฉ้อโกงฯ โดยสั่งให้จ่ายค่าปรับทางแพ่ง 19.32 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 268 ล้านบาท) และชดใช้คืนความเสียหายอีก 6.44 ล้านดอลลาร์ (ราว 90 ล้านบาท)
นอกจากนี้ ศาลยังสั่งห้ามไม่ให้จำเลยทั้งหมดเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ที่อยู่ภายใต้การกำกับของ CFTC อย่างถาวร ซึ่งทาง CFTC ระบุว่า คำตัดสินในครั้งนี้ เป็น ‘สัญญาณชัดเจน’ ถึงการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังเพื่อคุ้มครองนักลงทุนในตลาดคริปโต
ต้นเหตุของคดีเกิดขึ้นระหว่างเดือนมกราคม 2014 ถึงมิถุนายน 2017 เมื่อบริษัทมีพฤติกรรมเชิญชวนนักลงทุนจำนวน 28 รายให้ร่วมลงทุนในโครงการ ‘มายบิ๊กคอยน์’ โดยอ้างว่าเป็นโครงการคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนจากทรัพย์สินจริง มูลค่ารวมการระดมทุนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายสูงถึง 6 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 83 ล้านบาท)
รายงานระบุว่าไม่เพียงเฉพาะกิลเลสปีและโรชเท่านั้น แต่ผู้ร่วมก่อตั้งอีกคนคือ แรนดอลล์ เครเตอร์(Randall Crater) ก็มีส่วนร่วมในการสร้าง ‘โปรเจกต์ลวงโลก’ โดยโฆษณาเหรียญคริปโตชื่อ MBC ว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยและมีหลักทรัพย์หนุนหลัง ทั้งที่ในความเป็นจริงไม่มีเงินสำรองหรือโครงสร้างใดรองรับเหรียญดังกล่าวเลย
CFTC กล่าวเพิ่มเติมว่า “คำตัดสินนี้แสดงให้เห็นว่า แม้แต่ในตลาดคริปโต หากละเมิดกฎการเงินแบบดั้งเดิม ก็มีผลทางกฎหมายตามมาอย่างรุนแรงได้” พร้อมเตือนนักลงทุนรายย่อยให้ใช้ความระมัดระวังสูงสุดในการเข้าร่วมโครงการที่ยังไม่มีการตรวจสอบอย่างชัดเจน
*คำสำคัญ*: มายบิ๊กคอยน์, CFTC, หลอกลวงนักลงทุน, ค่าปรับ, โทษทางแพ่ง
*ความคิดเห็น*: กรณีนี้สะท้อนถึงอำนาจของหน่วยงานกำกับดูแลที่มีบทบาทสำคัญในการปราบปรามการฉ้อโกงในโลกคริปโต โดยเฉพาะเมื่อโครงการต่าง ๆ ใช้ชื่อคริปโตเป็นเครื่องมือเรียกความน่าเชื่อถือโดยไม่มีมูลรองรับ
ความคิดเห็น 0