Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

คูคอยน์(KuCoin) เปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ภายใต้ชื่อ 'คูคอยน์ ไทยแลนด์' หลังคว้าใบอนุญาต ก.ล.ต.

แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล *คูคอยน์(KuCoin)* ประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในชื่อ *คูคอยน์ ไทยแลนด์(KuCoin Thailand)* หลังได้รับใบอนุญาตการดำเนินกิจการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ของไทย ซึ่งทำให้กลายเป็นผู้ให้บริการคริปโตระดับสากลรายแรกที่ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายไทยอย่างสมบูรณ์

เมื่อวันที่ 26 ที่ผ่านมา คูคอยน์เปิดเผยว่าการเข้ามาในประเทศไทยในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การขยายตลาดสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมย้ำถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและ *การปฏิบัติตามกฎหมาย (Compliance)* โดยอ้างอิงจากการได้รับใบรับรองด้านความปลอดภัย SOC 2 Type II และ ISO 27001 ล่าสุด

บีซี หว่อง(BC Wong) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคูคอยน์ กล่าวว่า “การเปิดให้บริการในประเทศไทยถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการขยายธุรกิจในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เรามุ่งมั่นจะมอบบริการคริปโตที่ปลอดภัยและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้นแก่ผู้ใช้งานชาวไทย”

การเปิดตัว *คูคอยน์ ไทยแลนด์* ครั้งนี้เกิดขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท ERX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายที่อยู่ภายใต้การกำกับของ ก.ล.ต. มาโดยตลอด โดยคูคอยน์ได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อแพลตฟอร์ม ERX เป็น *คูคอยน์ ไทยแลนด์* ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน และได้ถ่ายโอนผู้ใช้งานจาก ERX มายังระบบของคูคอยน์เรียบร้อยแล้ว

ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ให้บริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย WAAN Exchange, กัลฟ์ ไบแนนซ์(Gulf Binance), ตลาดซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลไทย(Thai Digital Assets Exchange), อินโนเวสต์เอ็กซ์(InnovestX), GMO-Z.com, อัพบิต ไทยแลนด์(Upbit Exchange), บิทคับ ออนไลน์(Bitkub Online) และ ออบิกซ์ เทรด(Orbix Trade)

คูคอยน์มองว่า จุดแข็งของประเทศไทยอยู่ที่นโยบายสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น มาตรการอนุญาตให้ใช้ *บัตรเครดิตคริปโต* สำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งสะท้อนถึงการปฏิรูปเชิงบวกในด้านกฎระเบียบ และสนับสนุนการเติบโตของระบบเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศ *ความคิดเห็น:* การเปิดรับเทคโนโลยีเหล่านี้ส่งผลดีทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค

นอกจากนี้ ทางการไทยยังมีแนวโน้มที่จะจำกัดการให้บริการของแพลตฟอร์มต่างประเทศที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งยิ่งผลักดันให้แพลตฟอร์มที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น คูคอยน์ มีความน่าเชื่อถือและความได้เปรียบทางการแข่งขันมากขึ้น การขยายเข้าสู่ตลาดไทยในครั้งนี้จึงเป็นทั้งกลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยง และก้าวสำคัญในการเสริมความแข็งแกร่งของคูคอยน์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1