กระทรวงยุติธรรมสหรัฐกำลังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการกำกับดูแลที่ไม่เป็นธรรมต่อโปรโตคอลการเงินแบบกระจายศูนย์(DeFi) โดยบริษัทเงินร่วมลงทุนรายใหญ่ 'อันเดรสเซน โฮโรวิตซ์(a16z)' ได้ออกมาแสดงความกังวลผ่านบล็อกโพสต์เมื่อวันที่ 4 โดยระบุว่า "การบังคับให้ผู้พัฒนาโปรแกรมต้องรับผิดชอบต่อการใช้เครื่องมือของพวกเขาโดยบุคคลที่สาม ถือเป็นแนวทางที่ไม่สมเหตุสมผล"
a16z ชี้ว่ากระทรวงยุติธรรมกำลังมองแพลตฟอร์ม DeFi เป็นเพียง 'ผู้ให้บริการทางการเงิน' และด้วยเหตุนี้ บริษัท DeFi หลายแห่งถูกจัดอยู่ในกลุ่ม 'ธุรกิจส่งเงิน' (money transmitting business) ทำให้ต้องเผชิญกับมาตรการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การที่รัฐบาลสหรัฐกำหนดให้ทั้งแพลตฟอร์มซื้อขายแบบรวมศูนย์(CEX) และแพลตฟอร์ม DeFi ต้องรับผิดชอบในระดับเดียวกัน ยังถือเป็นการกำกับดูแลที่ขาดความสมเหตุสมผลจากมุมมองทางกฎหมายอีกด้วย
แม้ว่า a16z จะเป็นนักลงทุนในแพลตฟอร์ม DeFi อย่าง 'ยูนิสวอป(UNI)' แต่ก็ย้ำว่าจำเป็นต้องมี 'เกณฑ์ที่ชัดเจน' ในการกำหนดความรับผิดชอบของนักพัฒนาและผู้ใช้งานในเครือข่ายดิจิทัล พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเร่งกำหนดมาตรฐานแนวทางที่โปร่งใสสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต
ภายใต้ยุคของรัฐบาลไบเดน กระทรวงยุติธรรมและคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) ดำเนินแนวทางกำกับดูแลที่เข้มงวดต่ออุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีการดำเนินคดีทางกฎหมายกว่า 100 คดี และดำเนินการฟ้องร้องทั้งนักพัฒนาและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโดยตรง อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง มีความเป็นไปได้ที่นโยบายอาจเปลี่ยนไป เนื่องจากทรัมป์ได้ประกาศว่าจะทำให้สหรัฐกลายเป็น 'ศูนย์กลางคริปโตของโลก' และเตรียมแต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ในตำแหน่งสำคัญ
a16z เปรียบเทียบปัญหานี้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยระบุว่า "ผู้ผลิตรถยนต์ไม่สามารถรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่ได้ เช่นเดียวกับที่นักพัฒนาโปรโตคอลไม่ควรถูกลงโทษเพียงเพราะมีบุคคลภายนอกใช้เครื่องมือของพวกเขาในทางที่ผิด" พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐจัดทำกฎระเบียบที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้ผู้พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมบล็อกเชนต้องตกอยู่ในความไม่แน่นอนทางกฎหมาย
ความคิดเห็น 0