สิงคโปร์เข้มกฎคริปโต! MAS เตรียมใช้ระบบใบอนุญาต DTSP กลางปี 2025

รายงานล่าสุดจากไทเกอร์รีเสิร์ช(Tiger Research) เปิดเผยว่า สิงคโปร์กำลังนิยามภาพลักษณ์ของตนใหม่ในฐานะศูนย์กลางอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นประเทศที่ ‘เป็นมิตรกับธุรกิจ’ มาอย่างยาวนาน โดยกำลังเปลี่ยนนโยบายสู่แนวทางเข้มงวดมากขึ้น พร้อมประกาศใช้ระบบใบอนุญาตผู้ให้บริการโทเคนดิจิทัล (DTSP) และเน้นให้บริษัทในวงการเว็บ3 แสดงหลักฐานการดำเนินงานจริงในประเทศอย่างชัดเจน เพื่อตอบโต้ต่อการล่มสลายของบริษัทคริปโตระดับโลกและเพื่อลดกรณีหลีกเลี่ยงกฎระเบียบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) จะเริ่มบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยบริการการเงินและตลาด (FSMA ส่วนที่ 9) ในวันที่ 30 มิถุนายน 2025 ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของระบบ DTSP อย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมจุดอ่อนของกฎหมายการให้บริการชำระเงิน (PSA) ที่ใช้ในปัจจุบัน โดยเฉพาะในกรณีที่บริษัทคริปโตเพียงแค่จดทะเบียนนิติบุคคลในประเทศ แต่ไม่มีการดำเนินธุรกิจจริง ไทเกอร์รีเสิร์ช ระบุว่า ตัวอย่างสำคัญของข้อบกพร่องเหล่านี้ปรากฏให้เห็นชัดเจนหลังการล่มสลายของเทอร์ราฟอร์มแลปส์(Terraform Labs) และทรีแอร์โรว์แคปิตอล(3AC)

ระบบใบอนุญาต DTSP จะเข้มงวดยิ่งขึ้น โดยไม่ว่าบริษัทจะจัดตั้งในรูปแบบองค์กรแบบใด หรือผู้ใช้จะอยู่ที่ใด หาก MAS เห็นว่าบริษัทมี ‘ฐานปฏิบัติการจริง’ ในสิงคโปร์ ก็จะต้องยื่นขอใบอนุญาตทันที ซึ่งรวมถึงบุคคลที่มีสถานะผู้พำนักในประเทศและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการด้วย MAS ย้ำว่า บริษัทที่ไม่มีธุรกิจจริงจะไม่ได้รับใบอนุญาตในทุกกรณี และไทเกอร์รีเสิร์ชยังประเมินว่า นี่คือความพยายามของสิงคโปร์ในการเปลี่ยนตนเองสู่ ‘ศูนย์กลางการเงินดิจิทัลที่มีความน่าเชื่อถือ’

มาตรการใหม่นี้ถูกมองว่าเอื้อต่อบริษัทที่ดำเนินงานอย่างโปร่งใสและปฏิบัติตามกฎหมาย แต่ในทางกลับกัน โครงการที่มีโครงสร้างคลุมเครือ หรือมีการจัดการทางการเงินไม่ชัดเจนอาจต้องชะลอหรือพิจารณาย้ายไปยังเขตอำนาจอื่น รายงานระบุว่า เขตเศรษฐกิจอย่างฮ่องกง, อาบูดาบี และดูไบ กำลังเป็นที่สนใจมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ถือเป็นทางเลือกหลีกเลี่ยงที่ง่าย เนื่องจากพื้นที่เหล่านี้ก็มีกฎเกณฑ์เกี่ยวกับการต่อต้านการฟอกเงินและข้อกำหนดด้านเงินทุนที่เคร่งครัดเช่นกัน

ในภาพรวม ไทเกอร์รีเสิร์ชสรุปว่า ทิศทางใหม่นี้อาจเป็นประตูสำคัญในการผลักดันความ ‘โปร่งใสและความรับผิดชอบ’ ในระบบนิเวศของเว็บ3 และปรับโครงสร้างตลาดให้เน้นไปที่บริษัทที่มีความมั่นคงและมีบทบาทจริงในอุตสาหกรรม โดยระบุว่า กรอบกำกับดูแลของสิงคโปร์กำลังนำพาอุตสาหกรรมออกจากบริบท ‘การเติบโตในพื้นที่สีเทา’ และวางรากฐานเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในตลาดคริปโตระดับโลก