Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

สแตรทีจีทุ่มซื้อบิตคอยน์(BTC) สร้างวงจรปั่นทุนสะเทือนตลาดการเงินโลก

บริษัทที่ถูกขนานนามว่า ‘เครื่องผลิตเงินไม่รู้จบ’ หรือในอีกแง่มุมว่าเป็น ‘ระเบิดเวลาทางการเงิน’ กำลังดึงดูดความสนใจจากตลาด ด้วยแนวทางที่ไม่เหมือนใคร พวกเขาเปลี่ยน ‘เงินทุน’ ของบริษัทไปเป็น *บิตคอยน์(BTC)* จนสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับกรอบการเงินของโลกธุรกิจแบบดั้งเดิม โดยใช้นโยบายซื้อบิตคอยน์เพื่อปลุกความเชื่อมั่นในตลาด ผลักดันราคาหุ้นขึ้น และอาศัยราคาหุ้นที่พุ่งสูงเป็นฐานเพื่อระดมทุนและซื้อบิตคอยน์เพิ่ม กลายเป็นวงจรปั่นกำไรที่ยังไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด

หัวหอกของแนวทางนี้คือบริษัท *สแตรทีจี* ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อมาจาก *ไมโครสแตรทีจี* โดยบริษัทถือครองบิตคอยน์มากกว่า 590,000 เหรียญ คิดมูลค่าราว 87 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีบิตคอยน์ในมือล้ำหน้าที่สุดในโลก นอกจากนี้ ยังมีบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 130 แห่งทั่วโลกที่หันมาใช้บิตคอยน์เป็นทรัพย์สินของบริษัท และจำนวนนี้มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

เบื้องหลังกลยุทธ์นี้คือ *ไมเคิล เซย์เลอร์* ที่เป็นผู้วางรากฐาน แนวทางของเขาคือการกู้เงินหรือระดมทุนเพื่อนำไปซื้อบิตคอยน์ สร้างความคาดหวังในตลาดและกระตุ้นราคาหุ้นให้พุ่งขึ้น แล้วนำผลกำไรหรือต้นทุนทางการเงินที่ได้มาเวียนลงทุนซ้ำอีกครั้ง ผลลัพธ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าแนวทางนี้ ‘ได้ผลดี’ อย่างมาก แต่ในทางกลับกัน ก็ยังมี ‘ความเสี่ยงซ่อนเร้น’ ที่ตลาดยังไม่ให้ความสนใจมากนัก หากตลาดกลับสู่ขาลงหรือเกิดวิกฤต การพึ่งพิงบิตคอยน์แบบสุดโต่งเช่นนี้อาจกลายเป็น*ปัจจัยที่เขย่าสะเทือนวงการคริปโตทั้งหมด* ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญหลายคนเริ่มแสดงความกังวลต่อโครงสร้างความมั่นคงทางการเงินของบริษัทเหล่านี้

ในหมู่ผู้ลงทุนคริปโตเอง ต่างก็ยอมรับว่ากลยุทธ์แบบนี้ทั้งน่าตื่นเต้นและน่าหวั่นใจ การที่บริษัทมหาชนเข้ามาซื้อบิตคอยน์ปริมาณมหาศาลจะกลายเป็น ‘แรงผลักสำคัญ’ ของรอบขาขึ้นถัดไป หรือนี่อาจเป็น ‘ตัวจุดชนวน’ ให้เกิดฟองสบู่รอบใหม่ในตลาด ยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ชัดเจน

ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลง *ทรัมป์* และพรรครีพับลิกัน แสดงท่าทีหนุนหลังอุตสาหกรรมคริปโตอย่างเปิดเผย จึงมีความเป็นไปได้ว่าการเมืองอาจเข้ามามีบทบาทในการเพิ่มหรือชะลอผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้อย่างมีนัยสำคัญ และด้วยความเคลื่อนไหวที่ ‘กล้าเสี่ยง’ เหล่านี้ บริษัทเหล่านี้ย่อมตกเป็นเป้าสายตาของทั้งนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแลมากยิ่งขึ้นในอนาคต

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1