แพลตฟอร์มตลาดคาดการณ์ ‘คาลซี(Kalshi)’ ที่ผ่านการรับรองโดยหน่วยงานกำกับของสหรัฐฯ ล่าสุดประสบความสำเร็จในการระดมทุนรอบใหญ่ ส่งผลให้ได้รับการประเมินมูลค่าบริษัทสูงถึง 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.78 แสนล้านวอน โดยรอบการลงทุนครั้งนี้นำโดยบริษัทลงทุนชื่อดัง ‘พาราไดม์(Paradigm)’ และได้รับการสนับสนุนจากผู้ร่วมลงทุนรายใหญ่ เช่น เซควอยา แคปิตอล และ มัลติเคอยน์ แคปิตอล ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความคาดหวังที่เพิ่มสูงขึ้นของนักลงทุนต่ออุตสาหกรรมตลาดคาดการณ์ในช่วงเริ่มต้นของการเติบโตนี้
คาลซีมีแผนใช้เงินทุนที่ระดมได้ครั้งนี้จำนวน 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 257,200 ล้านวอน) เพื่อขยายทีมเทคโนโลยี พร้อมกับการขยายการให้บริการตลาดคาดการณ์บนแพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ (brokerage platform) เพิ่มเติม โดยขณะนี้ คาลซีเปิดให้ซื้อขายสัญญาอยู่ในเว็บล(Webull)และโรบินฮู้ด($HOOD) ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร 'ทาเร็ก มันซูร์(Tarek Mansour)' กล่าวว่า *ตลาดคาดการณ์มีศักยภาพเหนือกว่าการสำรวจความคิดเห็นแบบดั้งเดิมในด้านความแม่นยำทางสถิติและความเป็นเรียลไทม์* และยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
คาลซีก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยทาเร็ก มันซูร์ และ ลูอานา โลเปส ลารา(Luana Lopes Lara) โดยจนถึงตอนนี้สามารถระดมทุนรวมแล้วทั้งสิ้น 156 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 217,800 ล้านวอน) ทั้งนี้ คู่แข่งสำคัญอย่างโพลีมาร์เก็ต(Polymarket) ก็กำลังเดินหน้าแผนการระดมทุนรอบใหม่วงเงิน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 278,000 ล้านวอน) ซึ่งคาดว่าจะประเมินมูลค่าบริษัทไว้ที่ระดับ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.39 แสนล้านวอน ‘ความคิดเห็น’ ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างคาลซีและโพลีมาร์เก็ต คือด้าน ‘กฎระเบียบ’ โดยคาลซีดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายที่ได้รับอนุญาตในสหรัฐฯ ในขณะที่โพลีมาร์เก็ตยังไม่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลจากรัฐบาลกลาง
การระดมทุนครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังที่คาลซีสามารถหลุดพ้นจากข้อพิพาททางกฎหมายกับคณะกรรมการการซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าแห่งสหรัฐฯ (CFTC) ได้สำเร็จ โดยในเดือนกันยายน 2024 CFTC ได้ฟ้องร้องคาลซี อ้างว่าสัญญาคาดการณ์การเลือกตั้งทางการเมืองเข้าข่าย ‘การพนัน’ ที่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยสินค้าโภคภัณฑ์ และต่อมาได้ยื่นอุทธรณ์ แต่เมื่อถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ CFTC ได้ถอนอุทธรณ์โดยสมัครใจ ทำให้กำแพงทางกฎระเบียบถูกยกออกไป *ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เปิดโอกาสให้ตลาดคาดการณ์ด้านการเมืองสามารถเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ*
ย้อนกลับไปช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีก่อน ในระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดี คาลซีและโพลีมาร์เก็ตมีการใช้งานอย่างล้นหลาม โดยผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบเรียลไทม์และวางเดิมพันในหัวข้อต่าง ๆ เช่น การเมือง เศรษฐกิจ สภาพอากาศ และกีฬา เพื่อทดสอบว่าความน่าจะเป็นและผลลัพธ์ที่ผู้ใช้ประเมินไว้จะใกล้เคียงกับผลจริงมากน้อยเพียงใด
ในกรณีของคาลซี *หมวดกีฬา* ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยจากข้อมูลของ Bloomberg Intelligence ในช่วงเดือนมีนาคมถึงต้นเมษายน พบว่ากว่า 79% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดเกิดขึ้นจากสัญญาที่เกี่ยวข้องกับกีฬา อย่างไรก็ตาม คาลซียังต้องเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายในบางรัฐ โดยล่าสุดได้ยื่นฟ้องคณะกรรมการควบคุมเกมของรัฐเนวาดาและรัฐนิวเจอร์ซีย์เกี่ยวกับข้อจำกัดด้านการซื้อขายสัญญากีฬา
ในทิศทางที่ตลาดคาดการณ์ถูกจับตามองมากขึ้นในฐานะ *เครื่องมือใหม่สำหรับรวบรวมข้อมูล* ที่สามารถเสริมความแม่นยำให้กับการสำรวจแบบดั้งเดิม การเติบโตของแพลตฟอร์มที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น คาลซี ยิ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของทั้งนักลงทุนและหน่วยงานกำกับดูแล และน่าจะกลายเป็น ‘ต้นแบบที่สำคัญ’ สำหรับเส้นทางการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ต่อไปในอนาคต.
ความคิดเห็น 0