เลเจอร์ (Ledger) ผู้ผลิตกระเป๋าฮาร์ดแวร์สำหรับเก็บคริปโต ประกาศยุติการสนับสนุน ‘นาโน เอส(Nano S)’ อย่างเป็นทางการ สร้างความไม่พอใจในวงกว้างในหมู่ผู้ใช้งานผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทเปิดเผยผ่านบล็อกทางการว่า นาโน เอส จะไม่ได้รับการอัปเดตแอปพลิเคชันใหม่ ข้อเสนอฟีเจอร์ หรือการปรับปรุงซอฟต์แวร์อีกต่อไป ส่งผลให้ผู้ใช้งานยังคงสามารถใช้ฮาร์ดแวร์เดิมได้ แต่จะไม่สามารถเข้าถึงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ๆ ได้
นาโน เอสเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2016 และในปัจจุบันมีผู้ใช้งานที่ครอบครองอุปกรณ์รุ่นนี้มานานเกือบ 10 ปี โดยในแถลงการณ์ เลเจอร์แนะนำให้ผู้ใช้ควร *อัปเกรดไปใช้งานอุปกรณ์รุ่นใหม่ของเลเจอร์* พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าควรจัดเก็บ ‘คีย์กู้คืนลับ’ (Secret Recovery Phrase) ที่ประกอบด้วย 24 คำไว้ให้ดี
แต่ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยรู้สึกไม่พอใจต่อการประกาศดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ให้เวลาปรับตัว ทุกวันนี้ในโซเชียลมีเดีย มีทั้งความเห็นประชดเช่น “บริษัทเทคโนโลยีส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีนี้อยู่แล้วคงไม่แปลกใจ” ไปจนถึงเสียงวิจารณ์อย่างรุนแรง เช่น “สิ่งที่เราเชื่อถือมายาวนาน กลับถูกหยุดให้บริการแบบไม่รับผิดชอบ”
นักพัฒนาในระบบนิเวศของอีเธอเรียม(ETH) ที่ใช้ชื่อว่า ‘Pcaversaccio’ แสดงความคิดเห็นผ่านทวิตเตอร์ว่า การหยุดสนับสนุนครั้งนี้เป็น *“การตัดสินใจที่แย่มาก”* พร้อมเสริมว่า การที่บังคับให้ผู้ใช้ต้องซื้ออุปกรณ์ใหม่ และกรอกคีย์กู้คืนเดิมลงไปใหม่ ถือเป็นการ *“บีบบังคับให้คนต้องซื้อซ้ำ”*
*ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ* กล่าวว่า การเปลี่ยนนโยบายของเลเจอร์ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การอัปเกรดเทคโนโลยี แต่ยังเพิ่มภาระให้กับผู้ใช้ด้วย โดยเฉพาะกระบวนการป้อนคีย์กู้คืนลงในอุปกรณ์ใหม่ที่อาจเปิดช่องให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย เช่น การถูกแฮ็ก ฟิชชิง หรือแม้แต่การสูญเสียสิทธิ์ในการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลไปอย่างถาวร และแนะให้ผู้ใช้งาน *เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ* ในช่วงเปลี่ยนอุปกรณ์นี้
ความคิดเห็น 0