คาร์ดาโน(ADA) กำลังเข้าใกล้สัญญาณเทคนิค ‘เดธครอส’(Death Cross) ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้ม ‘ขาลง’ ที่อาจรุนแรงขึ้นในตลาดคริปโตโดยรวม โดยคาร์ดาโนซึ่งปัจจุบันอยู่ใน 10 อันดับแรกของคริปโตที่มีมูลค่าตลาดสูง ได้แสดงสัญญาณว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นและระยะกลางกำลังจะตัดกัน ซึ่งมักจะถูกมองว่าเป็นสัญญาณ *เตือนสำหรับแรงขาย* ในระยะสั้น
ข้อมูลทางเทคนิคระบุว่า คาร์ดาโนมีแนวโน้มที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 ชั่วโมงจะเคลื่อนตัวลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 200 ชั่วโมง ซึ่งเป็นรูปแบบที่เรียกว่า ‘เดธครอส’ และถือเป็นสัญญาณทางเทคนิคที่ *ชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่ต่อเนื่อง* แม้รูปแบบนี้จะมักใช้กับกราฟรายวันหรือรายสัปดาห์ แต่การเกิดขึ้นในระดับชั่วโมงก็สะท้อนภาพตลาดที่อ่อนแอในช่วงนี้เช่นกัน
ภาวะตลาดคริปโตในช่วงนี้อยู่ในช่วงการปรับฐาน โดยเหรียญหลักอย่างบิตคอยน์(BTC) และอีเธอเรียม(ETH) ต่างร่วงลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้คาร์ดาโนร่วงลงมากกว่า 5% มาอยู่ที่ราว 0.555 ดอลลาร์ หรือประมาณ 772 บาท คิดเป็นการขาดทุนเกือบ 8% ในรอบสัปดาห์
นักวิเคราะห์ประเมินว่า หาก ADA ไม่สามารถยืนเหนือระดับแนวรับที่ 0.51 ดอลลาร์ หรือประมาณ 710 บาทได้ อาจมีโอกาสร่วงต่อถึง 0.40 ดอลลาร์ หรือประมาณ 556 บาท อย่างไรก็ตาม หากสามารถดีดกลับและทะลุแนวต้าน 0.60 ดอลลาร์ หรือราว 835 บาทได้ ก็มีแนวโน้มที่จะเกิด *การกลับตัวของแนวโน้มขึ้น*
ปัจจัยที่กดดันราคาไม่ได้จำกัดเพียงแค่ด้านเทคนิคเท่านั้น การปรับฐานหลังจากที่ราคาฟื้นตัวขึ้นในช่วงต้นเดือน ทำให้มีแรงขายทำกำไรเกิดขึ้น แถมตลาดยังอยู่ในภาวะ *ระวังความเสี่ยงจากนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)* และตัวเลขเงินเฟ้อที่จะประกาศเร็วๆ นี้
โดยจากข้อมูลที่มีแสดงว่า มีการ *ชำระบัญชีตำแหน่งแบบเลเวอเรจรวมมูลค่ากว่า 2.28 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3.17 แสนล้านวอน* ส่งผลให้ตลาดยิ่งเปราะบางมากขึ้น
ขณะที่เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ได้ย้ำในวุฒิสภาสหรัฐว่าการควบคุมเงินเฟ้อยังเป็น ‘ภารกิจหลัก’ ของเฟด ดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคล(PCE) ที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ ถูกจับตามองว่าอาจปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.1% เป็น 2.3% และในส่วนของดัชนีพื้นฐานที่ไม่รวมอาหารและพลังงาน อาจขยับจาก 2.5% เป็น 2.6%
ด้วยปัจจัยทั้งเชิงมหภาคและเทคนิคที่ซ้อนทับกันจึงทำให้คาร์ดาโนและเหรียญหลักอื่นๆ แสดงความไวต่อ *ตัวแปรทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์* อย่างชัดเจน ในช่วงที่ความไม่แน่นอนยังปรากฏเด่นชัด นักลงทุนจึงควรใช้แนวทางที่ระมัดระวังในการเข้าตลาดและจับตาความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0