ความขัดแย้งทางกฎหมายระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) กับบริษัทริปเปิลยังคงตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง หลังผู้พิพากษาอนาเลซา ตอร์เรส ปฏิเสธคำร้องร่วมของทั้งสองฝ่ายในการขอให้ศาลเสนอความเห็นเบื้องต้น (Indicative Ruling) เมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้ราคาของริปเปิล(XRP) ตอบสนองในทันที โดยร่วงลงไปแตะระดับ 2.09 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวเล็กน้อยและซื้อขายอยู่บริเวณ 2.10 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม บรรยากาศของตลาดโดยรวมยังคงมีแนวโน้ม ‘อ่อนแรง’
ขณะนี้ XRP มีรูปแบบราคาแบบ ‘ทำจุดต่ำใหม่และยอดสูงลดลง’ ซึ่งบ่งชี้ถึงเทรนด์ขาลง โดยนักวิเคราะห์ด้านเทคนิคหลายรายระบุว่า หากต้องการเห็นสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ระดับ ‘จุดต่ำสุด’ จะต้องยกตัวสูงขึ้นก่อนจะทดสอบจุดสูงเดิม นักลงทุนบางกลุ่มเชื่อว่าอาจเกิดการดีดกลับชั่วคราวในช่วงนี้ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะมองว่าเป็นการกลับตัวของแนวโน้ม
ด้านแนวต้านสำคัญของ XRP อยู่ที่ช่วง 2.19–2.20 ดอลลาร์ หากสามารถทะลุผ่านไปได้อย่างชัดเจน เป้าหมายถัดไปน่าจะอยู่ในช่วง 2.30–2.35 ดอลลาร์ และหากมีการปิดแท่งเทียนรายวันอย่างแข็งแกร่งในบริเวณนี้ การเคลื่อนไหวของราคาอาจมีโอกาสไปถึง 2.60 ดอลลาร์ในระยะต่อไป ขณะที่แนวรับอยู่ในโซน 2.05–2.10 ดอลลาร์ หากหลุดระดับนี้จะมีแรงกดดันให้ราคาถอยกลับไปสู่ช่วง 1.92–1.95 ดอลลาร์
เมื่อพิจารณาจากภาพรวมในระยะกลางถึงยาว หาก XRP ไม่สามารถรักษาระดับ 2.08 ดอลลาร์ไว้ได้ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจุดต่ำใหม่ โดยแนวรับสำคัญระดับ 1.79 ดอลลาร์ น่าจะกลายเป็นพื้นที่ที่นักลงทุนจับตาอย่างใกล้ชิด เฉพาะในตอนนี้ แม้บิตคอยน์(BTC) จะสามารถแสดงโครงสร้างการขึ้นแบบ 5 คลื่นได้บางส่วน แต่ XRP ยังไม่สามารถสร้างรูปแบบในลักษณะเดียวกันได้
ในช่วงที่ผลกระทบจากคำตัดสินยังไม่จางหาย นักลงทุนส่วนใหญ่มองข้ามการดีดกลับในระยะสั้น และเน้นดูว่าแนวรับระยะกลางถึงยาวจะถูกยืนยันหรือไม่ อีกทั้งให้ความสำคัญกับสัญญาณการฟื้นตัวในอนาคต ทั้งนี้ สำหรับ XRP จะเปลี่ยนแนวโน้มไปสู่ขาขึ้นที่แข็งแรงได้ จำเป็นต้องมีทั้งปัจจัยทางเทคนิคที่เอื้ออำนวยควบคู่กับความคืบหน้าในคดีระหว่างริปเปิลกับ SEC ซึ่งจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดันราคาต่อไปในระยะข้างหน้า
ความคิดเห็น 0