ตลาดคริปโตจับตาใกล้ชิด หลังจากที่ *เดริบิต(Deribit)* เตรียมให้ออปชัน *บิตคอยน์(BTC)* จำนวน 140,000 สัญญา หมดอายุในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ โดยคิดเป็นมูลค่ารวมราว 20.9 หมื่นล้านบาท (1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันศุกร์สุดท้ายของไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นวันหมดอายุของทั้งออปชันแบบรายเดือนและรายไตรมาส จึงอาจส่งผลต่อ ‘ความผันผวนในระยะสั้น’ ของราคาคริปโตเคอร์เรนซีหลักอย่างมีนัยสำคัญ
‘จุดเจ็บปวดสูงสุด(Max Pain)’ สำหรับรอบนี้อยู่ที่ระดับ *102,000 ดอลลาร์* หรือราว 14.18 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาบิตคอยน์ในตลาดสปอตปัจจุบันกว่า 5,000 ดอลลาร์ ด้านอัตราส่วน *พุท/คอล(Put/Call)* อยู่ที่ 0.74 บ่งชี้ว่านักลงทุนเข้าซื้อคอลออปชันมากกว่าพุทออปชัน หรือกล่าวอีกทางหนึ่งคือ ‘คาดการณ์ราคาขาขึ้น’
ข้อมูลล่าสุดจากเดริบิตระบุว่า จุดที่มีการสะสม *มูลค่าคงค้าง(Open Interest)* สูงสุดอยู่ที่ระดับ *140,000 ดอลลาร์* หรือราว 19.46 ล้านบาท ขณะที่ระดับ *120,000 ดอลลาร์* และ *85,000 ดอลลาร์* ก็กลายเป็นแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญเช่นกัน นอกจากนี้ เดริบิตยังเปิดเผยว่า มูลค่า Open Interest โดยรวมของออปชันบิตคอยน์ได้ทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ *4 หมื่นล้านดอลลาร์* หรือราว 5.56 ล้านล้านบาท
ไม่ใช่แค่บิตคอยน์เท่านั้น เพราะยังมีออปชันของ *อีเธอเรียม(ETH)* อีกกว่า 940,000 สัญญาที่จะหมดอายุพร้อมกัน โดยมีมูลค่ารวมประมาณ *31.97 พันล้านบาท* (230 ล้านดอลลาร์) จุด Max Pain ของอีเธอเรียมอยู่ที่ *2,200 ดอลลาร์* หรือประมาณ 305,000 บาท และมีอัตราส่วนพุท/คอลที่ 0.52 ซึ่งสะท้อนสัญญาณการลงทุนขาขึ้นเช่นกัน
เมื่อรวมคริปโตทั้งหมดที่หมดอายุในวันเดียวกัน มูลค่าทางทฤษฎีจะอยู่ที่ราว *2.4 ล้านล้านบาท* (1.73 หมื่นล้านดอลลาร์)
ด้านบริษัทวิเคราะห์คริปโต *กรีกส์ไลฟ์(Greeks Live)* ให้ความเห็นว่า “ข่าวความขัดแย้งด้านสงครามและรายงานหยุดยิงที่ขัดแย้งกัน ทำให้ตลาดเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และส่งผลต่อทัศนคติของนักเทรดอย่างชัดเจน” โดยในเชิงเทคนิค บิตคอยน์ยังมีโอกาสดีดกลับขึ้นได้ และมีการระบุแนวต้านไว้ที่ *108,000 ดอลลาร์* (15.01 ล้านบาท) ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ *104,800 ดอลลาร์* (14.56 ล้านบาท)
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมตลาดยังคงอ่อนแอ โดยมูลค่าตลาดคริปโตเคอร์เรนซีรวมลดลง 2.5% ลงมาต่ำกว่า *4,726 ล้านล้านบาท* (3.4 ล้านล้านดอลลาร์) บ่งชี้ถึงการยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ บิตคอยน์ก็ไม่สามารถทะลุแนวต้านระยะสั้นที่ *107,000 ดอลลาร์* (14.87 ล้านบาท) ได้สำเร็จ ส่วนอีเธอเรียมยังพยายามไต่ระดับไปยืนเหนือ *2,500 ดอลลาร์* (ประมาณ 347,000 บาท) แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ
นอกเหนือจากนี้ เหรียญทางเลือกอื่น ๆ (*Altcoins*) ก็เผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่อง ทั้ง *ริปเปิล(XRP)*, *โซลานา(SOL)*, *ซูอิ(SUI)* และ *เฮเดรา(HBAR)* ต่างปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ผลของการหมดอายุของออปชันครั้งนี้อาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการกำหนดทิศทางเปิดไตรมาสที่ 3 ของตลาดคริปโต ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างให้ความสนใจและจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0