Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) รีบาวด์แตะ 107,000 ดอลลาร์ ท่ามกลางสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย-เงินเฟ้อพุ่ง

บิตคอยน์(BTC) เคลื่อนไหวผันผวนเมื่อไม่นานมานี้ โดยราคาต่ำสุดแตะ 99,000 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดกลับมาอยู่ที่ราว 107,000 ดอลลาร์ จุดชนวนความคาดหวังจากนักลงทุนอีกครั้ง อย่างไรก็ดี บรรยากาศในตลาดกลับแตกต่างจากช่วงขาขึ้นที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีแรงซื้อพุ่งจากนักลงทุนรายย่อย หรือความรู้สึกหวั่นเกรงว่าจะพลาด(FOMO) หนุนราคาดั่งเคย มีเพียงการเคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ จากนักลงทุนสถาบัน, นักลงทุนรายใหญ่ และนักเทรดมืออาชีพเท่านั้นที่ประคองทิศทางตลาด ข้อมูลออนเชนก็บ่งชี้ถึงความ ‘นิ่ง’ อย่างผิดสังเกต

ความสงบของตลาดในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง ‘ภาวะไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ’ ที่เข้ามาปกคลุมมากกว่าจะเป็นเพียงปรากฏการณ์ดีดตัวทางเทคนิค เศรษฐกิจสหรัฐกำลังแสดงสัญญาณของ *ภาวะชะลอการเติบโตควบคู่เงินเฟ้อ* หรือ ‘stagflation’ โดยที่อัตราการเติบโตซบเซา ขณะที่เงินเฟ้อทรงตัวในระดับสูง ท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เองก็ยังไม่ชัดเจนว่าเลือกจะรับมือกับเงินเฟ้อหรือเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจก่อนกัน สถานการณ์อันคลุมเครือเช่นนี้กลับเป็นปัจจัยบวกสำหรับบิตคอยน์ในสายตานักวิเคราะห์บางราย *แต่คำถามสำคัญคือ การขึ้นรอบนี้ที่อิงจากบัญชีรายงานผล ไม่ใช่ความเชื่อมั่น จะยั่งยืนได้หรือไม่?*

ประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ แม้จะไม่ได้ใช้คำว่า ‘stagflation’ อย่างตรงไปตรงมาในการรายงานต่อรัฐสภาล่าสุด แต่ *ความกังวลต่อภาวะนี้สะท้อนอยู่ในถ้อยคำของเขาอย่างชัดเจน* พาวเวลล์กล่าวว่า ยังต้องรอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อประเมินผลกระทบของนโยบายภาษีของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อเงินเฟ้อในระยะยาว พร้อมระบุว่า “พร้อมจะอดทนรอ” ขณะเดียวกัน ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐเริ่มเข้าเงื่อนไขสภาวะ Stagflation อย่างครบถ้วน ด้วยการเติบโตลดลง อัตราว่างงานปรับขึ้น และเงินเฟ้อคงระดับสูง

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน เฟดปรับลดคาดการณ์จีดีพีปี 2025 ของสหรัฐ จาก 1.7% เหลือ 1.4% ขยับคาดการณ์เงินเฟ้อขึ้นจาก 2.7% เป็น 3% และปรับอัตราว่างงานเพิ่มจาก 4.4% เป็น 4.5% ดัชนีจากภาคเอกชนก็สะท้อนภาพเดียวกัน ดัชนี PMI เบื้องต้นของ S&P Global ในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 52.8 ต่ำกว่าระดับ 53.0 ในเดือนก่อนหน้า บ่งชี้ถึงยอดส่งออกที่ลดลง สต็อกคงคลังที่พุ่งสูง และแนวโน้มการบริโภคที่ชะงัก

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐปรับตัวเลขจีดีพีจริงไตรมาสแรกจาก -0.3% เป็น -0.5% ด้านการใช้จ่ายผู้บริโภคชะลอเหลือเพียง 0.5% ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานกลับพุ่งขึ้นถึง 3.8% ยิ่งไปกว่านั้น สงครามการค้าเริ่มแผ่เงากลับมาอีกครั้ง โดยมาตรการพักภาษีนำเข้าของทรัมป์ใกล้จะสิ้นสุดลงภายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลให้สหภาพยุโรป(EU) ถูกเก็บภาษีตอบโต้สูงถึง 50% และทั่วโลกจะเผชิญภาษีขั้นต่ำใหม่อีก 10%

การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐเองก็ยังไม่ลงตัว แม้มีข้อตกลงเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม แต่หากไม่เกิดการตกลงใหม่ภายใน 90 วัน หรือก่อน 12 สิงหาคม ความขัดแย้งอาจปะทุอีกครั้ง ด้านประเด็นอย่างโลหะหายากและข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี ก็ยังห่างไกลจากข้อตกลงถาวร แม้ความตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเริ่มซาลง แต่บรรยากาศสงครามการค้ากลับกดดันระบบโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ

สินทรัพย์ที่มีลักษณะ ‘กันกระทบเศรษฐกิจโลก’ อย่างบิตคอยน์ จึงได้รับความสนใจกลับมาอีกครั้ง *ความคิดเห็น*: อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ยังขาดหายคือ ‘ความเชื่อมั่นของผู้คน’

ข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์คริปโตเคอร์เรนซี CryptoQuant เปิดเผยว่า ปริมาณเฉลี่ยรายเดือนของบิตคอยน์ที่ไหลเข้าบินานซ์อยู่ที่เพียง 5,700 BTC ซึ่งน้อยกว่าช่วงตลาดหมีในปี 2022 เสียอีก ในอดีต เมื่อเข้าสู่ตลาดขาขึ้น นักลงทุนรายย่อยมักแห่เข้าตลาด ทำให้ปริมาณเหรียญในแพลตฟอร์มซื้อขายเพิ่มขึ้น แต่ครั้งนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดจากกลุ่มดังกล่าว

สุดท้าย แม้ตลาดจะแสดงสัญญาณขยับอีกครั้ง แต่ ‘ความเชื่อมั่น’ ที่จะขับเคลื่อนราคาอย่างมั่นคงยังไม่กลับมา นักวิเคราะห์บางรายประเมินว่า ขาขึ้นที่แท้จริงจะเริ่มต้นในฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนจะ ‘เริ่มเชื่ออีกครั้ง’ ว่าคริปโตไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาน แต่คือทรัพย์สินแห่งอนาคตที่จับต้องได้

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1