นักลงทุนรายใหญ่ของ *อีเธอเรียม(ETH)* เริ่มแสดงพฤติกรรม 'เทขาย' อย่างชัดเจนในช่วงไม่นานนี้ สร้างสัญญาณเตือนต่อทิศทางตลาดโดยรวม ข้อมูลจากเครือข่ายบล็อกเชนระบุว่า ที่อยู่กระเป๋าเงินสองแห่ง ได้แก่ 0x14e4 และ 0x26Bb ได้มีการถอน *อีเธอเรียม* ออกไปกว่า 95,920 ETH ภายในระยะเวลา 20 วันที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้มีถึง 62,289 ETH หรือคิดเป็นมูลค่าราว 214,400 ล้านบาท ที่ถูกโอนเข้าไปยังแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่ เช่น HTX, Bybit และ OKX
จากการวิเคราะห์พบว่า กระเป๋าเงินทั้งสองน่าจะดำเนินการโดยบุคคลหรือกลุ่มเดียวกัน โดยยังถือครองอยู่ที่ประมาณ 33,631 ETH คิดเป็นมูลค่าประมาณ 128,900 ล้านบาท ซึ่ง *ความเป็นไปได้ในการขายเพิ่มเติม* ยังไม่สามารถตัดทิ้งได้ นักลงทุนที่เคลื่อนไหวในลักษณะนี้มักถูกมองว่าเป็นกลุ่มที่สามารถสร้าง ‘แรงกดดันด้านราคา’ ต่อเหรียญได้โดยตรง
สถานการณ์ราคาของ *ETH* ยังส่งสัญญาณที่ไม่สดใส โดยเหรียญไม่สามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วัน (EMA) ที่ระดับราว 2,465 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.42 ล้านบาท และยังคงเผชิญแรงต้านซ้ำๆ บริเวณ EMA 200 วันที่ระดับ 2,530 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3.51 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าโมเมนตัมฝั่งขายกำลังมีบทบาทครอบงำทางเทคนิคมากขึ้น
นับตั้งแต่เกิดการดีดตัวสั้นช่วงกลางเดือนพฤษภาคม *ETH* กลับไม่สามารถสร้างจุดสูงสุดใหม่ได้ ในขณะเดียวกัน ปริมาณการซื้อขายก็ลดลงเรื่อยๆ การเด้งกลับล่าสุดที่เกิดขึ้นภายใต้ *ปริมาณซื้อขายต่ำ* มักถูกตีความว่าเป็นสัญญาณของ “การกระจาย (distribution)” ซึ่งหมายถึงกลยุทธ์ของนักลงทุนรายใหญ่ที่พยายามขยับราคาขึ้นชั่วคราวเพื่ออำนวยต่อการขาย
เมื่อพิจารณาจากดัชนีความแรงสัมพัทธ์ (RSI) ที่ยังคงอยู่ในโซนกลาง การไหลเข้าของแรงซื้อใหม่ยังไม่ปรากฏเด่นชัด "ความคิดเห็น" จากผู้เชี่ยวชาญในวงการชี้ว่า ETH อาจต้องกลับไปทดสอบแนวรับบริเวณ 2,300-2,400 ดอลลาร์ (ประมาณ 3.2 ถึง 3.34 ล้านบาท) อีกครั้งในอนาคตอันใกล้
โดยรวมแล้ว การเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบของกลุ่ม *นักลงทุนรายใหญ่* หรือที่เรียกกันว่า ‘สมาร์ตมันนี่’ อาจถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญสำหรับนักลงทุนทั่วไป หากมองข้ามแนวโน้มการขายขนาดใหญ่เหล่านี้ นักลงทุนอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงขาดทุนท่ามกลางตลาดช่วงขาลง ทั้งนี้ ภาวะที่เกิดขึ้นยังอาจส่งผลต่อทิศทางตลาดคริปโตทั้งหมดในระยะสั้น ทำให้ *ความระมัดระวัง* เป็นสิ่งจำเป็นในช่วงเวลานี้
ความคิดเห็น 0