Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

โบน(BONE) ร่วง 12% หลัง OKX ประกาศถอดถอน สะเทือนความเชื่อมั่นมีมคอยน์

โบน(BONE) ร่วง 12% หลัง OKX ประกาศถอดถอน สะเทือนความเชื่อมั่นมีมคอยน์ / Tokenpost

โทเคน ‘โบน(BONE)’ ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลในระบบนิเวศของชิบะอินุ(SHIB) และโด่งดังในฐานะ *มีมคอยน์* กำลังตกอยู่ในภาวะกดดัน หลังจากถูกประกาศถอดออกจากการซื้อขายในโอเคเอ็กซ์(OKX) ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ของโลก โดยภายในระยะเวลาเพียงวันเดียว BONE ร่วงลงถึง 12% และเมื่อดูจากการเคลื่อนไหวในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ราคาลดลงกว่า 32% สร้างความวิตกให้กับนักลงทุนอย่างชัดเจน

เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) OKX ประกาศว่าจะยุติการสนับสนุนการเทรดของสกุลเงินดิจิทัลบางรายการในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ โดย BONE รวมอยู่ในรายชื่อดังกล่าว ขณะนี้การฝาก BONE ถูกระงับไปแล้ว และจะสามารถถอนออกได้จนถึงสิ้นเดือนกันยายนเท่านั้น โดย OKX มีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก การถูกถอดออกจากตลาดของแพลตฟอร์มขนาดใหญ่เช่นนี้ส่งผลให้โทเคน BONE สูญเสีย ‘สภาพคล่อง’, การเข้าถึงจากนักลงทุน และ ‘ชื่อเสียง’ ซึ่งล้วนมีผลกระทบด้านลบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โบน(BONE) เปิดตัวครั้งแรกในช่วงฤดูร้อนปี 2021 ควบคู่กับการเปิดตัวแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจ (DEX) ที่ชื่อ ‘ชิบะสว็อป’ และถูกออกแบบให้มีบทบาทหลายด้าน ทั้งเป็นโทเคนสำหรับการโหวตข้อเสนอ นักพัฒนา ใช้เป็นรางวัลสำหรับการให้สภาพคล่อง และทำหน้าที่เป็นโทเคน ‘ก๊าซ’ บนเลเยอร์ 2 ที่ชื่อว่า ‘ชิบะเรียม’ ครั้งหนึ่งเคยทำสถิติราคาไว้ที่ 15 ดอลลาร์ (ประมาณ 20,900 บาท) แต่ในปัจจุบันกลับร่วงมาอยู่ที่ระดับ 0.18 ดอลลาร์ (ประมาณ 250 บาท)

ด้านชุมชนผู้สนับสนุน BONE ก็ออกมาเคลื่อนไหวอย่างเข้มข้น ‘ลูซี’(LUCIE) ผู้ทำหน้าที่วางกลยุทธ์การตลาดให้กับชิบะเรียม โพสต์ในทวิตเตอร์ว่า “การถูกถอดถอนเพียงครั้งเดียวจากแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ก็สามารถส่งผลให้เกิดภาวะตื่นตระหนก” พร้อมแนะว่าแม้แพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์จะสะดวก แต่การเลือกใช้ *ดีไฟ (DeFi)* นั้น “ปลอดภัยและยั่งยืนมากกว่า” โดยเธอเสนอให้มีการสร้างระบบที่เปิดกว้างและเข้าถึงง่ายโดยไม่จำเป็นต้องมีการยืนยันตัวตน (KYC), การใช้งาน 2FA หรือแม้กระทั่งการยื่นตัวอย่างเลือด

ทั้งนี้ ลูซี ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าในอดีต ริปเปิล(XRP) และชิบะอินุเองก็เคยเผชิญกับกระแสความหวาดกลัวและความไม่แน่นอน หรือที่รู้จักกันในชื่อ *FUD* มาหลายครั้ง แต่ก็ยังสามารถ “เอาตัวรอดจากแรงกดดันเหล่านั้นได้” ขณะเดียวกัน เธอยังเตือนถึงความล้มเหลวของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ในอดีตอย่าง FTX และวาซีร์เอ็กซ์(WazirX) ว่าความเป็น ‘ศูนย์กลาง’ ไม่ได้หมายความว่าจะ *ปลอดภัยจากความเสี่ยง*

เหตุการณ์ในครั้งนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงความ ‘เปราะบางของแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์’ และอาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนมีมคอยน์หันมาให้ความสำคัญกับ *ดีไฟ* ในฐานะเครื่องมือเพื่อการอยู่รอดและการกระจายอำนาจในระบบนิเวศคริปโตอย่างแท้จริง

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1