เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) เน็ด ลามอนต์(Ned Lamont) ผู้ว่าการรัฐคอนเนตทิคัต ได้ลงนามในร่าง ‘กฎหมายสภาผู้แทนราษฎรที่ 7082’ ซึ่งระบุชัดว่า *ห้ามรัฐคอนเนตทิคัตใช้หรือถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในทุกกรณี* ส่งผลให้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ รัฐบาลท้องถิ่นจะไม่สามารถรับชำระเงินหรือจัดเก็บสินทรัพย์ใด ๆ ในรูปแบบคริปโตเคอร์เรนซีได้อีกต่อไป
กฎหมายฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนและวุฒิสภาของรัฐก่อนที่จะได้รับการลงนามอย่างเป็นทางการ ถือเป็นท่าทีที่ชัดเจนของรัฐคอนเนตทิคัตในการเลือก ‘ไม่รองรับ’ การใช้ *คริปโตเคอร์เรนซี* ในภาครัฐ โดยเฉพาะการรับจ่ายหรือถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* และสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทอื่น ๆ รวมถึงการจัดสรรเป็นเงินสำรอง หรือดําเนินกิจกรรมทางการคลังใด ๆ ด้วยคริปโต
เจย์สัน ดูเซตต์(Jason Doucette) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งเป็นผู้เสนอร่างกฎหมายดังกล่าว ระบุว่าการจำกัดการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในภาครัฐเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐตกอยู่ในความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของตลาด *คริปโตเคอร์เรนซี* กฎหมายยังรวมถึงข้อกำหนดการลงทะเบียนและรายงานเพิ่มเติม สำหรับผู้ประกอบการที่ถือใบอนุญาตโอนย้าย *คริปโตเคอร์เรนซี* ภายในรัฐ ซึ่งอาจกระทบต่อภาคธุรกิจในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในระดับหนึ่ง
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ถูกมองว่า *ขัดแย้ง* กับแนวทางของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้แสดงความสนับสนุนการใช้คริปโตในภาครัฐ โดยเฉพาะในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการผ่าน *บล็อกเชน* และการจัดเก็บรายได้จากภาษีในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล
เมื่อพิจารณาจากนโยบายที่ไม่เป็นเอกภาพของแต่ละรัฐในสหรัฐฯ การที่คอนเนตทิคัตเลือกประกาศแบนคริปโตในระดับภาครัฐอย่างชัดเจน ย่อมกลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่อาจส่งผลต่อทิศทางการผลักดันให้ *คริปโตเคอร์เรนซี* เข้าสู่กระแสหลักในสหรัฐฯ ในอนาคต ความแตกแยกเรื่องมุมมองต่อสินทรัพย์ดิจิทัลระหว่างภาครัฐระดับชาติและท้องถิ่นอาจกลายเป็นแรงกดดันต่อการออกกฎหมายในภาพรวมต่อไป
ความคิดเห็น 0