เซินเจิ้นเตือนภัยแพลตฟอร์มคริปโตปลอม ใช้สเตเบิลคอยน์หลอกลงทุน ฟอกเงิน-แชร์ลูกโซ่

เมื่อวันที่ 7 สำนักป้องกันกิจกรรมทางการเงินที่ผิดกฎหมายประจำเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้ออกคำเตือนอย่างเป็นทางการต่อประชาชนเกี่ยวกับความเสี่ยงของ *แพลตฟอร์มการลงทุนปลอมที่แอบอ้างว่าเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลหรือสเตเบิลคอยน์* ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็น *การฉ้อโกงทางการเงิน* โดยอาศัยคำศัพท์ที่น่าเชื่อถืออย่าง “การเงินรูปแบบใหม่” หรือ “สินทรัพย์ดิจิทัล” มาหลอกล่อให้ผู้คนลงทุนโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนสูง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือกิจกรรมที่เกี่ยวพันกับการพนัน แชร์ลูกโซ่ และการฟอกเงิน

ทางการเซินเจิ้นเปิดเผยว่า แพลตฟอร์มเหล่านี้มัก *ไม่มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย* แต่กลับ *ปลอมตัวเป็นบริษัทลงทุนที่น่าเชื่อถือ* เพื่อระดมทุนอย่างผิดกฎหมาย พร้อมทั้งเตือนว่า พฤติกรรมเช่นนี้เป็นภัยต่อความสงบเรียบร้อยของตลาดการเงิน ทั้งนี้หน่วยงานยังได้แนะนำให้ประชาชนระมัดระวังคำโฆษณาเกินจริง และควรตรวจสอบ *ใบอนุญาตและโครงสร้างของกิจการ* อย่างรอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน

จุดที่น่าสนใจในมาตรการครั้งนี้ของเซินเจิ้น คือการเปิดให้ประชาชนร่วมแจ้งเบาะแส โดยหากพบเห็น *องค์กรหรือกลุ่มที่ใช้ชื่อสเตเบิลคอยน์เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงหรือระดมทุนผิดกฎหมาย* สามารถแจ้งหน่วยงานความมั่นคงหรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้ทันที และหากเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์จะมี *เงินรางวัลตอบแทนตามระเบียบ*

รัฐบาลจีนได้ดำเนินนโยบาย *ห้ามคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเด็ดขาดมาตั้งแต่ปี 2021* โดยเน้นสร้างความเชื่อมั่นผ่านระบบการเงินแบบรวมศูนย์โดยรัฐอย่าง *เงินหยวนดิจิทัล* มาตรการเตือนภัยล่าสุดนี้ จึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลจีนในการสนับสนุนระบบดังกล่าว พร้อมทั้งย้ำชัดว่าความเสียหายจากการร่วมลงทุนในกิจกรรมที่ผิดกฎหมายนั้นเป็นความรับผิดชอบ *ส่วนบุคคล*

แม้จะมีการแบนคริปโตทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้ *การหลอกลวงโดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง* โดยเฉพาะในบางเมืองที่ประชาชนยังเข้าถึงแพลตฟอร์มต่างประเทศได้ง่าย เซินเจิ้นจึงต้องการส่งข้อความ *เตือนที่หนักแน่น* ผ่านมาตรการนี้

ความพยายามเร่งสร้างระบบการเงินดิจิทัลแบบรวมศูนย์ภายใต้การนำของรัฐยังคงเดินหน้า แต่การแพร่ระบาดของกลโกงที่อ้างอิงกับสเตเบิลคอยน์ ยังคงก่อให้เกิด *ความไม่มั่นคงต่อระบบการเงินจีน* อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทางการระบุชัดเจนว่า พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงผิดกฎหมาย หากแต่ยังเป็นภัยต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศในภาพรวมอีกด้วย