สเตลลาร์(XLM) กำลังเผชิญแรงกดดันอีกครั้งหลังล้มเหลวในการทะลุแนวต้านสำคัญ และราคากำลังทดสอบแนวรับหลักอีกครั้ง ท่ามกลางความสนใจที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนก่อนการอัปเกรด ‘โปรโตคอล 23’ ที่มีกำหนดในวันที่ 3 สถานการณ์นี้ทำให้ตลาดเฝ้าจับตาว่าการปรับฐานครั้งนี้จะนำไปสู่การฟื้นตัวรอบใหม่หรือไม่
เมื่อวันที่ 2 ราคาของสเตลลาร์เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 0.36 ดอลลาร์ (ประมาณ 500 บาท) ซึ่งลดลงราว 7% ภายในสัปดาห์เดียว ข้อมูลจากตลาดชี้ว่า สเตลลาร์เป็นหนึ่งในอัลท์คอยน์บนเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) ที่มีการร่วงลงแรงที่สุดในช่วงที่ผ่านมา โดยแรงขายกลับมาหนักขึ้นอีกครั้งหลังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 0.45 ดอลลาร์ (ประมาณ 626 บาท) ส่งผลให้ราคากลับสู่การทดสอบแนวรับในโซน 0.30~0.32 ดอลลาร์ (ประมาณ 417~445 บาท)
กลุ่มวิเคราะห์ทางเทคนิค อัลฟา คริปโต ซิกแนล เปิดเผยว่า “ระดับ 0.45 ดอลลาร์ แสดงสัญญาณปฏิเสธอย่างชัดเจน และราคากำลังเข้าใกล้โซนที่มีโอกาสเกิดแรงซื้อ” พร้อมระบุว่ากำลังพิจารณา “สะสมเพิ่ม” บริเวณนี้ เนื่องจากเคยเป็นจุดเริ่มต้นของการดีดตัวในอดีต
ข้อมูลจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งระยะสั้นและระยะกลาง ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน โดยเส้น EMA 9 วันอยู่ที่ 0.37 ดอลลาร์ และ SMA 50 วัน อยู่ที่ 0.41 ดอลลาร์ (ประมาณ 570 บาท) ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าราคาปัจจุบันสะท้อนแรงกดดันขาลงในระยะใกล้ แม้ตลาดจะหม่นหมองแต่ก็ยังมีผู้เชี่ยวชาญบางรายประเมินว่า หากแนวรับปัจจุบันสามารถประคองไว้ได้ ก็มีโอกาสเกิดการรีบาวด์กลับไปในช่วง 0.50~0.55 ดอลลาร์ (ประมาณ 695~764 บาท) อย่างไรก็ตาม หากระดับ 0.30 ดอลลาร์แตกลง แรงขายอาจรุนแรงขึ้นอีกขั้น
ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงหลังช่วงตลาดกระทิงในเดือนกรกฎาคมยังคงบ่งชี้ถึงภาพรวมตลาดที่ ‘นิ่งชะงัก’ ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า ในวันที่ 2 เพียงวันเดียว มูลค่าการถูกปิดสถานะ Long สูงถึง 192,900 ดอลลาร์ (ราว 2.68 ล้านบาท) มากกว่าการถูกปิดสถานะ Short ที่มีมูลค่าเพียง 55,750 ดอลลาร์ (ราว 775,000 บาท) โดยเฉพาะที่ OKX มีการปิดสถานะ Long สูงถึง 138,160 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.92 ล้านบาท) คิดเป็นกว่า 70% ของยอดรวมทั้งหมด ขณะที่ Binance ก็พบการปิดสถานะทั้ง Long และ Short เป็นจำนวนมาก ถือเป็นสัญญาณว่า ‘จิตวิทยาการซื้อระยะสั้น’ นั้นถดถอยอย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน การอัปเกรด ‘โปรโตคอล 23’ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 อาจกลายเป็นตัวแปรใหม่ที่ส่งกระทบต่อตลาด โดยระบบใหม่นี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในระดับเครือข่าย แต่ผลกระทบต่อราคาในระยะสั้นยังไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นพร้อมกับการทดสอบแนวรับ จึงมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับทิศทางราคาของสเตลลาร์ในระยะต่อไป
การเคลื่อนไหวครั้งถัดไปของสเตลลาร์(XLM) จึงไม่ได้มีความหมายน้อยไปกว่าการฟื้นตัวชั่วคราว แต่นับเป็น ‘สัญญาณสำคัญ’ ที่จะบ่งชี้ว่าสภาวะขาขึ้นระยะกลางถึงยาวยังมีพลังหลงเหลืออยู่หรือไม่ *นักลงทุนควรติดตามสถานการณ์ก่อนและหลังการอัปเกรดอย่างใกล้ชิด*
ความคิดเห็น 0