แพลตฟอร์มคริปโตชื่อดัง ‘Pump.fun’ กลับมาได้รับความสนใจจากตลาดอีกครั้ง หลังราคาของโทเคนประจำแพลตฟอร์ม ‘ปั๊ม(PUMP)’ ดีดตัวขึ้น 13% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ปิดฉากภาวะขาลงที่ลากยาวมากว่าหนึ่งเดือน ปัจจัยหลักที่หนุนราคาคือกระแสบูมของ *เหรียญมีม* (Meme Coin) และกลยุทธ์ *ซื้อคืนและเผาโทเคน* (buyback and burn) ที่ช่วยลดซัพพลายในตลาด พร้อมจุดประกายคาดการณ์ ‘ตลาดกระทิงปี 2026’ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่ากำลังใกล้เข้ามา
การฟื้นตัวของ Pump.fun ครั้งนี้สะท้อนถึงภาพรวมของตลาดมีมคอยน์ที่เริ่มกลับมามีแรงซื้อ โดยเฉพาะหลังการเปิดตัวของโทเคนอย่าง WhiteWhale บนแพลตฟอร์มเดียวกัน ซึ่งกำลังรับความนิยม มีการวิเคราะห์ว่าบรรยากาศการลงทุนโดยรวมกำลัง ‘คลายแรงกดดัน’ อีกครั้ง
แพลตฟอร์มนี้ยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลจาก DefiLlama ระบุว่า ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รายได้ของ Pump.fun เพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ และทีมนักพัฒนาก็นำรายได้นี้ไปซื้อคืนโทเคนมูลค่าราว 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 14.45 ล้านบาท) ต่อวัน เพื่อนำมา ‘เผาโทเคน’ ซึ่งถือเป็นการเดินเกมแบบรุกเพื่อลดปริมาณเหรียญในตลาด และ ‘พยุงราคา’ อย่างมีประสิทธิภาพ
"ความคิดเห็น: กลยุทธ์นี้ช่วยซับแรงขายจากนักเทรดระยะสั้น และเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ถือเหรียญระยะยาว"
ด้านเทคนิค PUMP ก็เริ่มแสดงสัญญาณบวก ตัวเหรียญได้ดีดตัวขึ้นจากแนวรับของ *ช่องขาลงที่ต่อเนื่องกว่า 3 เดือน* ขณะที่อินดิเคเตอร์สำคัญอย่าง RSI กลับขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 30 อีกครั้ง และ MACD ก็กำลังส่งสัญญาณ ‘โกลเดน ครอส’ ซึ่งโดยทั่วไปถือเป็นการเริ่มต้นของแนวโน้มขาขึ้น
นักเทคนิคัลให้ความสนใจกับแนวรับหลักที่ $0.0025 (ประมาณ 3.6 บาท) และแนวต้านที่ $0.0035 (ประมาณ 5.1 บาท) หากราคาเบรกผ่านระดับต้านนี้ ก็มีโอกาสพุ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเดิมที่ $0.0047 (ประมาณ 6.8 บาท) หรือเพิ่มขึ้น 140% แม้บางรายคาดการณ์สูงถึง 365% โดยมองเห็นเส้นทางกลับไปยังระดับสูงสุดตลอดกาลที่ $0.009 (ราว 13 บาท)
อย่างไรก็ตาม ราคาอาจไม่สามารถพุ่งขึ้นอย่างยั่งยืนหากไม่มีแรงซื้อใหม่เข้ามาเพิ่มเติม และแพลตฟอร์มยังต้องการแผนงานที่ชัดเจนจากทีมผู้ร่วมก่อตั้ง เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นจากชุมชนผู้ใช้งาน
เมื่อกระแสของ Pump.fun ฟื้นตัวขึ้น จึงมีการพูดถึงแนวโน้มตลาดมีมคอยน์ในภาพรวมมากขึ้น หลายฝ่ายคาดว่าในปี 2026 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่เหรียญประเภทนี้กลับมาเรืองรอง โดยเฉพาะเหรียญที่จับกระแสสุนัขอย่าง *ด็อกคอยน์(DOGE)* ซึ่งในอดีตก็เคยจุดกระแสราคาให้กับเหรียญอย่าง ชิบะอินุ(SHIB), ฟลอคกี้(FLOKI), บองก์(BONK), ด็อกวิฟแฮต(WIF) และล่าสุดคือ เนโร(Neiro)
หนึ่งในโปรเจกต์ที่ถูกจับตาสำหรับการกลับมาครั้งหน้า คือ ‘แม็กซี ด็อก(Maxi Doge, $MAXI)’ เหรียญมีมที่เพิ่งปิดรอบพรีเซลด้วยเม็ดเงินถึง 4.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 63.6 ล้านบาท) โดยเสนอผลตอบแทนการฝากสเตกถึง 71% ต่อปี แม็กซีด็อกจึงถูกมองว่าอาจเป็น ‘ผู้สืบทอดกระแสด็อกคอยน์’ รายถัดไป และเป็นโอกาสใหม่สำหรับนักลงทุนที่เคยพลาดรอบก่อน
*ความคิดเห็น: ตลาดมีมคอยน์เดินตามวัฏจักรของกระแสสังคมและวัฒนธรรมโซเชียลเป็นหลัก หากตลาดกลับสู่แนวโน้มบวกในปี 2026 จริง เหรียญเหล่านี้อาจกลายเป็นตัวเร่งราคาครั้งใหม่ได้อีกครั้ง*
ความคิดเห็น 0