Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

บิตคอยน์(BTC) แซงทองคำ ขึ้นแท่นสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนสูงสุดปี 2025 หลังราคาทะลุ 123,000 ดอลลาร์

บิตคอยน์(BTC) แซงทองคำ ขึ้นแท่นสินทรัพย์ให้ผลตอบแทนสูงสุดปี 2025 หลังราคาทะลุ 123,000 ดอลลาร์ / Tokenpost

*บิตคอยน์(BTC)* พุ่งแซงหน้า *ทองคำ* ขึ้นแท่นสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในปี 2025 หลังจากราคาล่าสุดทะลุระดับ *123,000 ดอลลาร์* (ราว 17.09 ล้านบาท) ส่งผลให้บิตคอยน์มีการเติบโตราว *30%* จากต้นปี ในขณะที่ทองคำเพิ่มขึ้นเพียง *27%* เท่านั้น นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ *สองสินทรัพย์ปลอดภัยนี้* ครองตำแหน่งผู้นำในแง่ของผลตอบแทนตลาดอย่างพร้อมเพรียง

*ชาร์ลี บิเลลโล(Charlie Bilello)* หัวหน้านักกลยุทธ์จากบริษัทวิจัยตลาด *ครีเอทีฟ แพลนนิ่ง* ให้ความเห็นว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองสินทรัพย์ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลผลิตใดๆ ต่างเป็นผู้นำด้านผลตอบแทน นั่นสะท้อนถึงความไม่มั่นคงของตลาดและความต้องการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงอย่างชัดเจน” เขาชี้ว่า ความนิยมในบิตคอยน์และทองคำกำลังแสดงให้เห็นว่า *นักลงทุนให้ความสำคัญกับ ‘ความปลอดภัย’ เหนือสิ่งอื่นใด*

จุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ *3 กรกฎาคม* หลัง *สภาคองเกรสสหรัฐ* ผ่านกฎหมายที่เรียกว่า *‘Big Beautiful Bill’* ซึ่งจุดประกายการพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ถึง *15,000 ดอลลาร์* (ประมาณ 2.08 ล้านบาท) ภายในเวลาเพียงสัปดาห์เดียว นักวิเคราะห์ระบุว่าการพุ่งขึ้นนี้ไม่ใช่ผลกระทบจากข่าวระยะสั้น แต่เป็นเพราะความกังวลอย่างกว้างขวางต่อสถานการณ์เศรษฐกิจสหรัฐและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์

ปัจจัยพื้นฐานที่ตอกย้ำแรงผลักดันคือค่าดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ที่ *ร่วงลง 11%* ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ *ขาดดุลงบประมาณของสหรัฐ* ณ เดือนพฤษภาคมพุ่งสูงถึง *3.16 แสนล้านดอลลาร์* (ราว 439.4 ล้านล้านวอน) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งความตึงเครียดทางทหารระหว่างสหรัฐกับประเทศอย่าง *อิหร่าน* ก็ยิ่งซ้ำเติมบรรยากาศความไม่มั่นใจในตลาดยิ่งขึ้น นักวิเคราะห์บางรายถึงกับบ่งชี้ว่าสถานการณ์นี้คือ *“โหมดวิกฤติ (Crisis Mode)”*

สิ่งที่น่าสนใจคือเทรนด์ปัจจุบันไม่สามารถวิเคราะห์ได้เพียงแค่การพุ่งขึ้นของราคาสินทรัพย์หนึ่งๆ แต่มันสะท้อนถึงการที่ *นักลงทุนเร่งถอนเงินจากสินทรัพย์แบบดั้งเดิมอย่างหุ้นและอสังหาริมทรัพย์* ซึ่งมักใช้เพื่อสร้างรายได้ และหันไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง *บิตคอยน์และทองคำ* แทน ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำว่าตลาดทั่วโลกกำลังให้น้ำหนักกับ *การป้องกันความเสี่ยง มากกว่าการเติบโต*

ถึงอย่างนั้น ข้อถกเถียงเรื่องการเปรียบเทียบระหว่างบิตคอยน์กับทองคำก็ยังคงดำเนินต่อไปหลายปีแล้ว โดยคำว่า *“ทองคำดิจิทัล”* ที่ใช้เรียกบิตคอยน์ยิ่งได้รับความนิยมหลังจากการไต่ระดับราคาล่าสุดนี้ ซึ่งทำให้หลายฝ่ายเริ่มยอมรับว่าบิตคอยน์อาจไม่ใช่แค่ *สินทรัพย์เพื่อเก็งกำไรอีกต่อไป* แต่กำลังขยับเข้าข่ายเดียวกับทองคำที่ถือเป็น *ที่หลบภัยของนักลงทุน*

กระนั้นก็ตาม การที่สินทรัพย์ปลอดภัยได้รับความนิยมสูงเช่นนี้ อาจเป็น ‘*สัญญาณเตือน*’ ว่าเศรษฐกิจโลกอาจดำเนินมาถึงจุดอิ่มตัวหรือกำลังเผชิญความเสี่ยงที่รุนแรง จึงควรระวังมุมมองที่อาจมองโลกในแง่ดีเกินไป

*บิตคอยน์และทองคำ* ที่พุ่งขึ้นไปพร้อมกัน คือเครื่องสะท้อนว่า *นักลงทุนกำลังใช้กลยุทธ์ “หลบหลีกความเสี่ยงผ่านความกลัว”* ความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่สูงกว่าที่เคยมีมาก่อน บ่งชี้ว่า *ภาวะการลงทุนขณะนี้เน้นการป้องกันมากกว่าการแสวงหาโอกาส* และการจัดสรรพอร์ตแบบใหม่กำลังเกิดขึ้น เพื่อรับมือกับความผันผวนที่อาจกำลังใกล้เข้ามา.

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1