ตลาดดาร์กเว็บ ‘อะบาคัส มาร์เก็ต(Abacus Market)’ ที่เคยถือเป็นหนึ่งในตลาดบิตคอยน์(BTC)ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกตะวันตก ได้หายไปจากระบบโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อไม่นานมานี้ ส่งผลให้ในแวดวงคริปโตเริ่มตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นอีกกรณีของ ‘เอ็กซิตสแกม’ หรือการปิดหนีพร้อมเงินของผู้ใช้
เมื่อวันที่ 1 TRM แล็บส์(TRM Labs) บริษัทด้านความปลอดภัยบนบล็อกเชน เปิดเผยในรายงานว่าทั้งเว็บไซต์หลักของอะบาคัส มาร์เก็ต รวมถึง ‘คลีร์เน็ต’ หรือเว็บไซต์สำรองที่เข้าผ่านเบราว์เซอร์ทั่วไปได้ ต่างก็ถูกปิดเต็มรูปแบบ โดยระบุว่าทางทีมงานของตลาดดาร์กเว็บแห่งนี้อาจ ‘หายตัวไปพร้อมกับเงินของผู้ใช้’ พร้อมวิเคราะห์เพิ่มเติมว่า “การดำเนินงานทั้งหมดได้หยุดลง และทีมงานก็หายไปพร้อมกับเงินทุนในระบบ”
การปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่หน่วยงานรัฐต่างเร่งกวาดล้างตลาดผิดกฎหมายออนไลน์อย่างเข้มข้น โดยในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ‘อาร์คีไทป์ มาร์เก็ต’ ซึ่งเป็นตลาดดาร์กเว็บอายุยาว ก็ถูกปิดลงเช่นกัน ทำให้ผู้ใช้จำนวนมากแห่ย้ายมาใช้งานอะบาคัส มาร์เก็ตแทน TRM แล็บส์ชี้ว่า การไหลเข้าของผู้ใช้ใหม่ทำให้แพลตฟอร์มทำสถิติยอดซื้อขายรายเดือนสูงสุด จนอาจดึงดูดความสนใจจากเจ้าหน้าที่รัฐเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังมีเบาะแสปรากฏตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน โดยผู้ใช้บางรายเริ่มร้องเรียนเกี่ยวกับ ‘ปัญหาการถอนเงินล่าช้า’ ซึ่งทางผู้ดูแลระบบที่ใช้ชื่อว่า ‘วีโต(Vito)’ ชี้แจงว่าเกิดจากผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและการถูกโจมตีแบบ DDoS แต่ TRM แล็บส์กลับมองว่า คำอธิบายดังกล่าว ‘มีรูปแบบเหมือนกับเอ็กซิตสแกมในกรณีอื่นๆ’
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึง *ความเปราะบางที่เพิ่มขึ้น* ของตลาดดาร์กเว็บทั่วโลก โดย TRM แล็บส์เตือนว่า “การปิดตัวและการโกงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลัง ทำให้ผู้ใช้และปริมาณธุรกรรมลดลงชัดเจน” พร้อมเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะมีกรณีลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นอีกในอนาคต *ความคิดเห็น: สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องกับระบบคริปโตใต้ดิน สิ่งนี้คือสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงที่ไม่อาจมองข้ามได้*
ความคิดเห็น 0