ราคาของ *พายเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* กำลังเผชิญกับแรงขายต่อเนื่อง ท่ามกลางความกังวลของนักลงทุนในตลาด แม้สกุลเงินดิจิทัลหลักอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* และ *อีเธอเรียม(ETH)* จะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม ตรงกันข้าม *พายคอยน์* ยังโดนแรงกดดันจากฝั่งขายอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ระดับแนวรับที่ 0.40 ดอลลาร์ หรือราว 556 บาท กลายเป็นจุดวัดใจสำคัญของราคาในตอนนี้
ตลอดช่วงที่ผ่านมา ราคาของพายคอยน์ยังเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดของปี โดยนับตั้งแต่เข้าสู่เดือนกรกฎาคม มีวันปิดตลาดด้วยแท่งแดงถึง 10 จาก 16 วันซื้อขาย แสดงให้เห็นว่า *แรงขายยังคงครอบงำตลาด* นักวิเคราะห์ประเมินว่าหากไม่มีการทะลุแนวต้านที่ 0.52 ดอลลาร์ หรือราว 724 บาท โอกาสของการฟื้นตัวทางเทคนิคนั้นจะดูน้อยลงไปอีก
ขณะที่ *ดัชนี RSI (Relative Strength Index)* ยังคงส่งสัญญาณแนวโน้มขาลง ดัชนี RSI รายวันลดต่ำกว่าเส้นกลาง 50 มาเป็นเวลากว่าสองเดือน และล่าสุดร่วงมาใกล้ระดับ 30 ซึ่งตามทฤษฎีแล้วถือว่าเป็นภาวะ ‘ขายมากเกินไป’ แต่ในทางปฏิบัติ ยังไม่เห็น *แรงซื้อ* ที่ชัดเจนพอที่จะกระตุ้นการดีดกลับของราคา
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มหลักอื่น ๆ อย่าง อีเธอเรียม หรือ *โซลานา(SOL)* พายเน็ตเวิร์กยังขาดความชัดเจนด้าน *การใช้งานจริง* และโครงสร้างการหมุนเวียนของโทเคนทำให้ความเชื่อมั่นในตลาดลดลง ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดการเปิดใช้งานเมนเน็ต และการเลื่อนการลิสต์ขึ้นตลาดซื้อขายหลายครั้ง ยิ่งตอกย้ำภาพลบในสายตาของนักลงทุน
ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูงเช่นนี้ สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักลงทุนคือ *การบริหารความเสี่ยง* โดยควรหลีกเลี่ยงภาวะ “ตื่นตระหนกขาย” และหันมาใช้กลยุทธ์ตามสัญญาณทางเทคนิคและข้อมูลปัจจัยพื้นฐาน เช่น RSI ปริมาณซื้อขาย ตลอดจนแนวรับ-แนวต้านที่สำคัญ เป็นเครื่องมือประกอบการตัดสินใจ
หากมองในระยะสั้น การจะพลิกกลับทิศทางและสร้างแรงซื้อใหม่ได้นั้น พายคอยน์จำเป็นต้องทะลุแนวต้าน 0.52 ดอลลาร์พร้อม *แรงซื้อที่ชัดเจน* เพื่อยืนราคาไว้ได้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ด้วยแรงกดดันจากฝั่งขายที่ยังหนักหน่วง สถานการณ์ในสัปดาห์นี้ยังมีความเสี่ยงที่จะ *เกิดการปรับฐานเพิ่มขึ้น* ได้อีกเช่นกัน
ความคิดเห็น 0