อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร(NCA) ถูกตัดสินจำคุกในข้อหาขโมย *บิตคอยน์(BTC)* จำนวน *50 เหรียญ* จากการสืบสวนออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดมืด ‘Silk Road 2.0’ ซึ่งบิตคอยน์จำนวนดังกล่าวมีมูลค่าปัจจุบันราว *5.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ* หรือประมาณ *819 ล้านบาท*
เมื่อวันที่ 3 (เวลาท้องถิ่น) สำนักงานอัยการแห่งสหราชอาณาจักร(CPS) เปิดเผยผ่านแถลงการณ์ว่า *พอล เชาลส์(Paul Chowles)* ซึ่งเคยทำหน้าที่ในทีมสืบสวนที่ดูแลคดี Silk Road และ Silk Road 2.0 ถูกตัดสินลงโทษจำคุก *5 ปี 6 เดือน* ฐานใช้ตำแหน่งหน้าที่ขณะปฏิบัติงานเพื่อโอนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ยึดมาได้เข้ากระเป๋าเงินดิจิทัลส่วนตัวของตนเอง ถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจในฐานะเจ้าพนักงานอย่างร้ายแรง
ก่อนหน้านี้ เชาลส์ได้สารภาพผิดในข้อหา *ลักทรัพย์*, *ฟอกเงินจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย*, และ *ซ่อนทรัพย์สินจากอาชญากรรม* เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยในช่วงการสืบสวน เขามีสิทธิเข้าถึงกระเป๋าเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลเพราะอยู่ในหน้าที่ แต่กลับใช้โอกาสนี้ในการโอนบิตคอยน์ที่ยึดมาจากผู้ร่วมก่อตั้ง Silk Road 2.0 ไปเก็บรักษาแบบผิดกฎหมาย
การสอบสวนระบุว่า บิตคอยน์ที่เชาลส์ขโมยไปไม่เคยถูกลบจากฐานข้อมูลทางคดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความ *วางแผนอย่างซับซ้อน* ที่ปิดบังมานานหลายปี โดยการเปิดโปงครั้งนี้เกิดขึ้นจากการวิเคราะห์เชิงนิติวิทยาศาสตร์ทางดิจิทัลและการติดตามธุรกรรมบนบล็อกเชน โดยเส้นทางการเคลื่อนย้ายของสินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นหลักฐานชี้ขาดในศาล
สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง *บิตคอยน์* กำลังกลายเป็นหนึ่งใน *พยานหลักฐานสำคัญ* ในการสอบสวนอาชญากรรมยุคใหม่ โดยเฉพาะในคดีที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายใต้ดิน เช่น Silk Road, ดาร์กเว็บ และแรนซัมแวร์ เนื่องจากธุรกรรมและเส้นทางการเงินสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน
กรณีนี้ไม่เพียงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน *หน่วยงานรัฐบาล* แต่ยังสะท้อนถึง *ช่องโหว่ในระบบการจัดการทรัพย์สินที่ยึดมาได้* จากการกระทำผิด สำนักงานตุลาการของอังกฤษกำลังพิจารณานำแนวทางใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกยึด
ความคิดเห็น 0