Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

ไมโครสแตรทิจีถือครองบิตคอยน์(BTC)ทะลุ 600,000 เหรียญ มูลค่ากว่า 2.68 ล้านล้านบาท

ไมโครสแตรทิจีถือครองบิตคอยน์(BTC)ทะลุ 600,000 เหรียญ มูลค่ากว่า 2.68 ล้านล้านบาท / Tokenpost

ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท ไมโครสแตรทิจี(MSTR) ยืนยันความมุ่งมั่นในกลยุทธ์ด้าน *บิตคอยน์(BTC)* ด้วยการเปิดเผยยอดการถือครองล่าสุดที่สร้างความประหลาดใจให้กับตลาด โดยระบุผ่านบัญชีทวิตเตอร์ว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน บริษัทได้สะสมบิตคอยน์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน *93,191 BTC* คิดเป็นมูลค่าโดยประมาณกว่า *11.1 ล้านล้านวอน* หรือราว *295,000 ล้านบาท* ตามมูลค่าตลาดล่าสุด

ในจำนวนนั้น มี *5,668 BTC* ที่เพิ่งถูกซื้อเพิ่มเติมภายในเดือนกรกฎาคม เพียงเดือนเดียวก็คิดเป็นมูลค่าราว *939,600 ล้านวอน* หรือประมาณ *24,800 ล้านบาท* กลยุทธ์การซื้อแบบเชิงรุกเช่นนี้ บริษัทได้เริ่มใช้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2020 และยังไม่เคยมีท่าทีเปลี่ยนแปลงหรือหยุดยั้ง

จากแนวทางดังกล่าว ทำให้ไมโครสแตรทิจี ไม่ได้ถูกมองเพียงเป็นบริษัทซอฟต์แวร์อีกต่อไป แต่ได้รับฉายาว่าเป็น *“ตู้นิรภัยบิตคอยน์แบบจดทะเบียนในตลาดหุ้น”* ด้วยจำนวนการถือครองทั้งหมดถึง *607,770 BTC* ซึ่งมีมูลค่าประมาณ *100.8 ล้านล้านวอน* หรือกว่า *2.68 ล้านล้านบาท*

บริษัทถือครองบิตคอยน์ในปริมาณมากที่สุดในบรรดาบริษัทมหาชนทั้งหมด โดยในปีนี้เพียงปีเดียว อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในบิตคอยน์ของบริษัทอยู่ที่ *20.8%* และกำไรสุทธิในไตรมาสสองยังเกิน *0.9%* เมื่อปีที่แล้ว ไมโครสแตรทิจีได้สะสมเพิ่มอีก *140,538 BTC* ส่งผลให้มูลค่าทรัพย์สินเพิ่มขึ้นถึง *13.1 ล้านล้านวอน* หรือประมาณ *354,000 ล้านบาท*

แม้ราคาของบิตคอยน์จะมีความ *ผันผวนสูง* โดยผันผวนเฉลี่ย *47%* ต่อปี และในช่วง 30 วันที่ผ่านมาสูงถึง *20%* ขณะเดียวกัน ความผันผวนโดยนัยที่ตลาดประเมินอยู่ก็ยังสูงถึง *43%* แต่เซย์เลอร์ยังคงรักษาจุดยืนในการถือครองระยะยาว โดยไม่เคยมีท่าทีที่จะขายหรือเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์กลางทางแต่อย่างใด

กลยุทธ์ของเขาไม่ได้มองบิตคอยน์เป็นเพียงเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง แต่รวมเข้าเป็นส่วนสำคัญของ *กลยุทธ์การบริหารสินทรัพย์ขององค์กร* โดยตรง ปัจจุบันราว *66 ล้านล้านวอน* หรือประมาณ *1.79 ล้านล้านบาท* ของสินทรัพย์บริษัทถูกผูกไว้กับราคาบิตคอยน์ ซึ่งสร้างภาพชัดว่า ไมโครสแตรทิจีไม่ได้หวังผลระยะสั้น แต่มุ่งเน้นการสะสมในระยะยาวที่ท้าทายแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ไมเคิล เซย์เลอร์ กล่าวถึงบิตคอยน์ว่าเป็น *“ทองคำดิจิทัลแห่งศตวรรษที่ 21”* พร้อมส่งสัญญาณชัดเจนว่าจะยังคงเดินหน้าสะสมต่อไป ซึ่งเป็นการส่งข้อความถึงนักลงทุนว่า การเข้าสู่ตลาดในเวลานี้อาจยังไม่สาย และไมโครสแตรทิจีคือตัวอย่างของบริษัทที่เดินหน้าโดยไม่ลังเล ด้วยแนวคิดและแผนระยะยาวที่มั่นคงในโลกของคริปโตเคอร์เรนซี

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1