แรงซื้อของนักลงทุนไหลเข้าสู่ ‘มีมคอยน์แบบโซลานา(SOL)’ หลังจากการปรับตัวชะลอลงของบิตคอยน์(BTC) และการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องของอีเธอเรียม(ETH) โดยแพลตฟอร์ม *LetsBONK.fun* กลายเป็นจุดสนใจใหม่ แทนที่ Pump.fun ที่เคยเป็นกระแสมาก่อนหน้า โดยเฉพาะเหรียญ ‘ยูสเลสคอยน์(Useless Coin)’ ที่เปิดตัวบนแพลตฟอร์ม LetsBONK ได้สร้างกระแสแรงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากบริษัทวิเคราะห์ตลาด พบว่า ราคาเฉลี่ยของมีมคอยน์บนเครือข่ายโซลานาปรับตัวขึ้นกว่า 10% โดย *PENGU* จากโครงการ Pudgy Penguins ทำหน้าที่เป็นผู้นำเทรนด์ ขณะที่เหรียญมีมจาก LetsBONK ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่มาแรง พุ่งขึ้นเฉลี่ยสูงถึง 45% ตรงกันข้ามกับ Pump.fun ที่เคยเป็นผู้นำ กลับมีอัตราการปรับขึ้นที่จำกัด ได้เพียงประมาณ 11% เท่านั้น
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ LetsBONK ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว มาจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพในฐานะแพลตฟอร์มออกเหรียญมีม เมื่อก่อนหน้านี้ Pump.fun ได้ระดมทุน ICO ไปกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลาเพียง 12 นาที อีกทั้งแพลตฟอร์ม LetsBONK ยังได้รับการสนับสนุนจาก BONK ซึ่งเป็นเหรียญมีมหลักของโซลานา รวมถึงมีอัตราการใช้งานเหรียญสูง และการมีส่วนร่วมของนักพัฒนาและนักลงทุนรายใหญ่ ส่งผลให้ชื่อเสียงของแพลตฟอร์มเติบโตอย่างรวดเร็ว
ในแง่รายได้ LetsBONK ยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางธุรกิจ โดยภายใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้กว่า 1.97 ล้านดอลลาร์ (ราว 27.3 ล้านบาท) ขณะที่ Pump.fun กลับทำรายได้ไปเพียง 39,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.9 ล้านบาท) เท่านั้น ความแตกต่างนี้ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนดุลอำนาจในตลาดมีมคอยน์ที่ชัดเจน
ท่ามกลางทุกสายตาที่จับตามอง ‘ยูสเลสคอยน์(USLESS)’ โดดเด่นขึ้นมาโดยทำราคาพุ่งขึ้นถึง 23% ในวันเดียว มาแตะที่ 0.33 ดอลลาร์ (ประมาณ 459 บาท) ด้วยมูลค่าตลาดแบบ Fully Diluted สูงกว่า 333 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 4,629 ล้านบาท) และมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ย 24 ชั่วโมงมากกว่า 43 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 598 ล้านบาท) ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่าอาจมีโอกาสพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในเร็ว ๆ นี้
สิ่งที่เติมเชื้อความร้อนแรงของยูสเลสคอยน์เข้าไปอีกคือ การประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับเครือข่ายเชนลิงค์(LINK) เพื่อเพิ่ม *ความสามารถแบบมัลติเชน* ให้สามารถใช้งานทั้งในเครือข่ายโซลานาและไบแนนซ์(BNB) พร้อมกัน ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการขยายขอบเขตการใช้งานและการแลกเปลี่ยนของมีมคอยน์ในอนาคต
*ความคิดเห็น* ผู้เชี่ยวชาญในวงการกล่าวว่า แนวโน้มดังกล่าวอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของ ‘ฤดูมีมคอยน์’ อย่างเป็นทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มที่อยู่บนโซลานา ซึ่งสามารถผสานเทคโนโลยีกับพลังของคอมมูนิตี้เพื่อหมุนเวียนวงจรชีวิตของโครงการได้อย่างรวดเร็ว
ปัจจัยสำคัญไม่ได้อยู่แค่ความนิยมชั่วคราวอีกต่อไป ตลาดมีมคอยน์ได้เริ่มพัฒนาตัวเองจากเทรนด์สั้น ๆ ไปสู่การแข่งขันเชิงกลยุทธ์ในระดับแพลตฟอร์ม ความสำเร็จของ LetsBONK และยูสเลสคอยน์ ถือเป็นตัวอย่างเด่นที่ขับเคลื่อนทิศทางนี้ พร้อมเปิดทางให้นักลงทุนหันมาให้ความสำคัญกับโครงสร้างเบื้องหลังและความสามารถในการเติบโตของโครงการแต่ละตัวมากยิ่งขึ้น
ความคิดเห็น 0