เครือข่ายพาย(Pi Network) ได้รับการจดทะเบียนบนแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลแบบมือถือ สแวปโฟน(Swapfone) อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 22 (ตามเวลาเกาหลี) สแวปโฟนได้เริ่มเปิดให้ซื้อขายคู่เหรียญระหว่าง พายคอยน์(PI) และดอลลาร์เสถียรดิจิทัล (USDS) พร้อมเปิดกิจกรรมแจกเหรียญพิเศษเพื่อฉลองการจดทะเบียนครั้งนี้
แม้การขึ้นแพลตฟอร์มในครั้งนี้จะถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับการขยายระบบนิเวศของเครือข่ายพาย แต่ตลาดกลับแสดงปฏิกิริยาไม่เป็นไปตามคาด โดยราคาของพายคอยน์ยังคงต่ำกว่า 0.50 ดอลลาร์ หรือประมาณ 700 วอน และแทบไม่ขยับขึ้นหลังการประกาศดังกล่าว ย้อนดูสถิติในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาพายคอยน์ปรับขึ้นเพียง 6% เมื่อเทียบกับเหรียญหลักอื่น ๆ อย่าง *บิตคอยน์(BTC), อีเธอเรียม(ETH), ริปเปิล(XRP), โซลานา(SOL)* ที่ต่างแสดงผลตอบแทนในระดับตัวเลขสองหลัก
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แม้พายคอยน์จะยังคงมีศักยภาพ แต่การไม่สามารถดีดตัวขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญนั้น ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจาก ‘ความเหนื่อยล้าของชุมชน’ และ ‘ช่องว่างระหว่างความคาดหวังกับความเป็นจริง’ โดยเฉพาะการที่พายคอยน์ยังไม่ได้ถูกจดทะเบียนบนกระดานซื้อขายใหญ่ เช่น ไบนานซ์ หรือคอยน์เบส ขณะที่วันสำคัญต่าง ๆ อย่าง ‘วันพาย(Pi Day)’ หรือ ‘พายทูเดย์(Pi2 Day)’ ที่เคยเรียกกระแสสนใจได้ดี ก็จบลงโดยไม่สามารถสร้างแรงกระตุ้นใหม่ให้กับตลาด
หลังเปิดตัวเมนเน็ตอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พายคอยน์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับราคาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ผู้ถือเหรียญระยะยาวเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับศักยภาพในการใช้งานจริงและสภาพคล่องในระบบ
อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายสัญญาณเชิงบวกที่น่าจับตา โดยเฉพาะบรรยากาศเชิงบวกของกฎหมายคริปโตในสหรัฐ เช่น ‘กฎหมาย CLARITY’ และ ‘กฎหมายห้ามสอดแนมผ่าน CBDC (Anti-CBDC Surveillance Act)’ ซึ่งผ่านการเห็นชอบในสภาผู้แทนราษฎร สะท้อนถึงแนวโน้มการกำกับดูแลสินทรัพย์ทางเลือกที่มีความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ขณะเดียวกันกระแส *Risk-On* หรือการเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นในตลาดโลก อาจส่งผลเชิงบวกต่อเหรียญอัลต์อย่างพายคอยน์เช่นกัน
อีกหนึ่งจุดที่ยังสร้างความหวัง คือผลโหวตก่อนหน้านี้จากไบนานซ์ ซึ่งพบว่าผู้ใช้งานกว่า 90% โหวตสนับสนุนการนำพายคอยน์เข้าสู่ลิสต์ซื้อขายบนแพลตฟอร์ม จึงยังคงมีความคาดหวังเกี่ยวกับ ‘โอกาสในการขึ้นจดทะเบียนบนกระดานระดับท็อป’
สุดท้าย ความสำเร็จของเครือข่ายพายในอนาคตจะขึ้นอยู่กับว่าทีมงานสามารถเรียกคืนความไว้วางใจจากชุมชนได้เร็วแค่ไหน และจะสามารถนำเสนอ ‘ประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจน’ ควบคู่กับการจดทะเบียนบนแพลตฟอร์มซื้อขาย ที่สามารถมอบ ‘มูลค่าแท้จริง’ ให้กับผู้เข้าร่วมตลาดได้หรือไม่ การทะลุแนวต้าน 1 ดอลลาร์ของพายคอยน์อาจไม่ใช่เพียงแค่สัญลักษณ์ แต่เป็น ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ที่จะทำให้โครงการกลับมาได้รับความเชื่อมั่นอีกครั้ง.
ความคิดเห็น 0