บิตคอยน์(BTC) ยังคงไม่สามารถทะลุแนวต้านที่ระดับ 120,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.46 ล้านบาท) ได้อีกครั้ง ส่งผลให้ราคาเริ่มชะลอตัว ในขณะเดียวกัน อัลท์คอยน์บางสกุลกลับเร่งตัวแรง โดยเฉพาะ PENGU และเฟลร์(FLR) ที่ในช่วงเวลาเพียง 24 ชั่วโมงมีราคาพุ่งขึ้นมากกว่า 20% กลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความสนใจใหม่ในตลาด
บิตคอยน์ได้แตะระดับสูงสุดที่ 123,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.56 ล้านบาท) เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ก่อนที่จะร่วงลงแรงภายใน 2 วัน สู่ระดับ 116,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.30 ล้านบาท) แม้ว่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาและผลักดันราคากลับสู่ 121,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.42 ล้านบาท) แต่ก็ยังไม่สามารถผ่าน ‘แนวต้านสำคัญ’ ได้ และในท้ายที่สุดราคาก็กลับมาที่ระดับประมาณ 119,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.35 ล้านบาท)
นักวิเคราะห์มองว่าคำสั่งขายทำกำไรบริเวณระดับสูงสุดคือหนึ่งในปัจจัยหลักที่กำลังฉุดรั้งการฟื้นตัวของ BTC ขณะเดียวกัน มูลค่าตลาดรวมของบิตคอยน์อยู่ที่ประมาณ 2.36 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 83.5 ล้านล้านบาท) และมีส่วนแบ่งตลาดปรับลดลงเหลือ 59% เมื่อเทียบกับอัลท์คอยน์
ในฝั่งของอัลท์คอยน์กลับเห็น ‘แนวโน้มเชิงบวกอย่างชัดเจน’ โดยไบแนนซ์คอยน์(BNB) ทะลุแนว 800 ดอลลาร์ (ประมาณ 1.1 แสนบาท) ทำสถิติสูงสุดใหม่ ส่วนอีเธอเรียม(ETH) พยายามกลับเข้าสู่ระดับ 3,700 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.1 แสนบาท) ขณะที่ริปเปิล(XRP) เคลื่อนไหวอย่างมั่นคงใกล้ระดับ 3.45 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,800 บาท)
โทเคนที่โดดเด่นที่สุดในวันดังกล่าวคือ PENGU และเฟลร์ ที่ ‘ราคาพุ่งเกิน 20%’ ภายในวันเดียว สร้างคลื่นกระแสใหม่ในตลาด ส่วนโซลานา(SOL) กำลังทดสอบแนวต้านสำคัญที่ 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.78 แสนบาท) และสเตลลาร์ลูเมน(XLM) ขยับขึ้นประมาณ 5% เพิ่มความคาดหวังในกลุ่มนักลงทุน
กระแสความร้อนแรงของอัลท์คอยน์ยังส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมของคริปโตทั้งหมดเพิ่มขึ้นกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว (ราว 1.48 ล้านล้านบาท) และแตะที่ ‘4 ล้านล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 139 ล้านล้านบาท) ถือเป็นสัญญาณว่ากระแสเงินทุนในตลาดกำลังเริ่มเบี่ยงออกจากบิตคอยน์และทยอยเข้าสู่โครงการทางเลือก
“บิตคอยน์ยังคงติดอยู่ในช่วงปรับฐานเพราะยังไม่ได้ทะลุแนวต้านสำคัญ ขณะที่นักลงทุนหันไปมองหาผลตอบแทนจากอัลท์คอยน์ที่ตอบจบได้เร็วกว่ามาก” นักลงทุนคริปโตรายหนึ่งแสดงความเห็น โดยชี้ว่าข่าวพัฒนาโปรเจกต์ รวมถึงประเด็นทางคอมมูนิตี้คือปัจจัยขับเคลื่อนการพุ่งขึ้นในระยะสั้น
สถานการณ์ในตอนนี้เผยให้เห็นถึงความต่างอย่างชัดเจนระหว่างบิตคอยน์ที่พยายามรีบาวน์ และอัลท์คอยน์ที่เป็นผู้นำเทรนด์ขาขึ้น ทั้งนี้ ทิศทางในระยะถัดไปยังต้องจับตาการพัฒนาของระบบนิเวศบล็อกเชน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกที่อาจกำหนดแนวโน้มตลาดคริปโตในระยะยาว
ความคิดเห็น 0