มารา โฮลดิงส์(Mara Holdings) บริษัทเหมืองคริปโตที่จดทะเบียนในตลาดแนสแด็กของสหรัฐฯ ประกาศแผนออก ‘หุ้นกู้แปลงสภาพแบบไม่มีดอกเบี้ย’ มูลค่ารวมสูงสุดถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.39 หมื่นล้านบาท) โดยระบุว่าบางส่วนของเงินทุนที่ได้ จะนำไปใช้เพื่อซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* เพิ่มเติม
ตามแถลงการณ์ของบริษัท หุ้นกู้แปลงสภาพดังกล่าวจะมีอายุครบกำหนดในปี 2032 โดยวงเงินหลักอยู่ที่ 850 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.18 หมื่นล้านบาท) ซึ่งจะเสนอขายแก่ผู้ลงทุนสถาบันเป็นอันดับแรก พร้อมด้วยสิทธิให้ผู้ซื้อสามารถซื้อเพิ่มอีก 150 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.08 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตาม เงื่อนไขสุดท้ายจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตลาด และขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันความสำเร็จของการออกหุ้นกู้ดังกล่าว
ในส่วนของการใช้เงินทุน บริษัทระบุว่าจะใช้ไม่เกิน 50 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 695 ล้านบาท) เพื่อนำไปซื้อคืนหุ้นกู้แปลงสภาพชุดเดิมที่ครบกำหนดในปี 2026 ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้สำหรับ *การซื้อบิตคอยน์*, การจัดสรรเงินสำหรับการทำธุรกรรมอนุพันธ์ รวมไปถึงการดำเนินงานทั่วไปของบริษัท ทั้งนี้ หุ้นกู้ชุดนี้จะไม่มีการจ่ายดอกเบี้ย และจัดเป็นหนี้ไม่มีหลักประกันแต่มีสิทธิเรียกร้องก่อนเจ้าหนี้โดยทั่วไป
การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงยุทธศาสตร์ด้านการเงินของมาราที่เน้น ‘บิตคอยน์เป็นหลัก’ ล่าสุดบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นบางส่วนในบริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล ทูไพรม(Two Prime) ซึ่งบริหารสินทรัพย์รวมกว่า 1.75 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 2.43 หมื่นล้านบาท) ส่งผลให้สามารถเพิ่มปริมาณ *บิตคอยน์ภายใต้การดูแล* ได้อย่างมาก ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการ ‘ขยายระบบนิเวศของบิตคอยน์ที่ตนถือครอง’ และสร้างรายได้หลากหลายให้บริษัท
นอกจากนี้มารายังเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม บริษัทเพิ่มปริมาณการขุดขึ้น 35% จากเดือนก่อนหน้า แม้ว่าความยากในการขุดและ *ค่าแฮชเรต* จะสูงขึ้นก็ตาม โดยเมื่อต้นเดือนมิถุนายน บริษัทได้เปิดเผยว่ารายได้จากการขุดบิตคอยน์ในช่วง 12 เดือนย้อนหลังสูงถึง 752 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.04 หมื่นล้านบาท) นับเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจุบัน มารา โฮลดิงส์ถือครอง *บิตคอยน์จำนวน 50,000 BTC* ไว้ในงบดุล ซึ่งเป็นอันดับสองของโลกในกลุ่มบริษัทเอกชน โดยอันดับหนึ่งคือบริษัทสแตรแทจี(Strategy) ที่ถือบิตคอยน์อยู่ถึง 607,000 BTC
การผลักดันการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทั้งในด้านการเพิ่ม ‘ความร่วมมือกับนักลงทุนสถาบัน’ และการเสริมแรงเทรนด์ ‘บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์หลัก’ ท่ามกลางแนวโน้มที่พรมแดนระหว่างวงการคริปโตกับการเงินแบบดั้งเดิมเริ่มเลือนลางลงอย่างเห็นได้ชัด ความเคลื่อนไหวของมาราจึงได้รับความสนใจจากทั้งตลาดคริปโตและสถาบันการเงินทั่วโลก
ความคิดเห็น 0