สมาคมอุตสาหกรรมด้านคริปโตและฟินเทคของสหรัฐฯ ร่วมกันเรียกร้องให้ *ประธานาธิบดีทรัมป์* สนับสนุนกฎระเบียบ *Open Banking* หลังจากที่กลุ่มธนาคารรายใหญ่ในประเทศเริ่มดำเนินการทางกฎหมายเพื่อยับยั้งกฎดังกล่าว โดยอุตสาหกรรมยืนยันว่า การเคลื่อนไหวของธนาคารเหล่านี้เป็นภัยต่อ *อนาคตของนวัตกรรมทางการเงินของสหรัฐ* และสะท้อนถึง *การผูกขาดโดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่*
เมื่อวันที่ 23 กลุ่มที่นำโดยสมาคมบล็อกเชน(Blockchain Association), สภานวัตกรรมคริปโต(Crypto Council for Innovation), และสมาคมเทคโนโลยีการเงิน(Financial Technology Association) ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกร่วมถึงทรัมป์เพื่อแสดงการสนับสนุนกฎเกณฑ์ Open Banking พร้อมระบุว่า ธนาคารรายใหญ่กำลังฟ้องร้องเพื่อยับยั้งการบังคับใช้กฎใหม่ ขณะเดียวกันก็มีการเรียกเก็บ *ค่าธรรมเนียมข้อมูลในอัตราที่สูงเกินสมควร* จากแอปฟินเทคและคริปโต
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 บลูมเบิร์กรายงานว่า เจพีมอร์แกนเชส(JPM) มีแผนเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสำหรับการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า โดยคิดอัตราตามวัตถุประสงค์ของการใช้งานข้อมูล รายงานยังเปิดเผยว่า บริษัทที่ให้บริการด้าน *ชำระเงินมักต้องรับภาระต้นทุนในระดับที่สูงกว่าปกติ*
จดหมายเปิดผนึกเน้นว่า “*ข้อมูลทางการเงินเป็นของประชาชนอเมริกัน ไม่ใช่ของธนาคาร*” พร้อมระบุว่า ความสามารถในการเลือกเครื่องมือทางการเงินและควบคุมข้อมูลของตนเองถือเป็น *ค่านิยมหลักในตลาดเสรีและเสรีภาพส่วนบุคคล*
อุตสาหกรรมคริปโตและฟินเทควิจารณ์ว่า ธนาคารกำลังใช้ *ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นอาวุธ* ขัดขวางการเติบโตของสตาร์ทอัพในตลาด พวกเขายืนยันว่า การออกกฎหมาย Open Banking คือ *กลไกสำคัญที่จะสร้างความเป็นธรรมในการเข้าถึงข้อมูลและขยายทางเลือกให้กับผู้บริโภค*
แม้ยังไม่ชัดว่า *ทรัมป์* จะมีท่าทีอย่างไรต่อกรณีดังกล่าว แต่จดหมายในครั้งนี้สะท้อนเจตนารมณ์ของอุตสาหกรรมว่า ต้องการรื้อโครงสร้างการผูกขาดที่มีอยู่ และผลักดันนโยบายที่เอื้อต่อ *การนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจการเงิน*
ความคิดเห็น 0