บริษัทในภาคอุตสาหกรรมดั้งเดิมเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการถือครอง *บิตคอยน์(BTC)*, *ริปเปิล(XRP)* และ *โซลานา(SOL)* ในฐานะ ‘สินทรัพย์ของบริษัท’ เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในกลุ่มธุรกิจเกษตร การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค และสิ่งทอ กลุ่มบริษัทขนาดกลางเหล่านี้กำลังใช้คริปโตเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเงิน สะท้อนแนวโน้มการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในวงการธุรกิจที่เริ่มเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 24 ที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีการเกษตร เนเจอร์ส มิราเคิล(Nature’s Miracle) ประกาศจัดสรรงบสูงสุดถึง 20 ล้านดอลลาร์ (ราว 278 ล้านบาท) เพื่อลงทุนใน *ริปเปิล(XRP)* เป็นทรัพย์สินของบริษัท ซึ่งชี้ให้เห็นว่าการลงทุนในคริปโตไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อีกต่อไป โดยทางเนเจอร์ส มิราเคิลแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะใช้กลยุทธ์เน้นการถือครอง ‘อัลต์คอยน์’ โดยไม่รวม *บิตคอยน์(BTC)* เข้ามาอยู่ในแผน
ในวันเดียวกัน บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคในสหรัฐอเมริกา ยูเพกซี(Upexi) ยืนยันการซื้อ *โซลานา(SOL)* จำนวน 83,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่ารวมราว 16.7 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 232 ล้านบาท) ซึ่งทำให้ยูเพกซีถือครอง *โซลานา* รวมแล้วกว่า 1.9 ล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 381 ล้านดอลลาร์ (ราว 5,296 ล้านบาท) การซื้อเพิ่มในครั้งนี้สะท้อนว่า *โซลานา* ถูกยูเพกซีจัดให้อยู่ในกลุ่มสินทรัพย์สำหรับถือครองระยะยาว
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 บริษัทญี่ปุ่นชื่อว่า คิตาโบ(Kitabo) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น และดำเนินธุรกิจด้านสิ่งทอและการรีไซเคิลมายาวนานเกือบ 80 ปี ก็ได้ประกาศแผนใช้เงินสดที่มีอยู่จำนวน 8 ร้อยล้านเยน หรือประมาณ 5.6 ล้านดอลลาร์ (ราว 78 ล้านบาท) เพื่อลงทุนใน *บิตคอยน์(BTC)* การตัดสินใจนี้ถูกมองว่าเป็นการรับมือกับการอ่อนค่าของเงินเยนและผลตอบแทนที่ลดลงของสินทรัพย์แบบดั้งเดิม
เมื่อบริษัทต่างๆ เริ่มจัดคริปโตเป็นส่วนหนึ่งของ *ทรัพย์สินขององค์กร* แทนที่จะเป็นเพียงการเก็งกำไรในระยะสั้น นี่อาจสะท้อนการเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งต่อโครงสร้างของโลกการเงิน ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญระบุว่า แนวโน้มนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘การยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ’ โดยเฉพาะจากบริษัทดั้งเดิมที่เคยเพิกเฉยต่อคริปโตมาก่อน
ความคิดเห็น 0