Back to top
  • 공유 แชร์
  • 인쇄 พิมพ์
  • 글자크기 ขนาดตัวอักษร
ลิงก์ถูกคัดลอกแล้ว

เนเจอร์ส มิราเคิลถือครองริปเปิล(XRP) มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ หนุนราคาหุ้นพุ่ง 110%

เนเจอร์ส มิราเคิลถือครองริปเปิล(XRP) มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ หนุนราคาหุ้นพุ่ง 110% / Tokenpost

เนเจอร์ส มิราเคิล โฮลดิง(Nature’s Miracle Holding, NMHI) บริษัทเทคโนโลยีการเกษตรจากสหรัฐฯ ได้เปิดศักราชใหม่ของยุคการเงินดิจิทัล ด้วยการประกาศนำ *ริปเปิล(XRP)* เข้ามาเป็นสินทรัพย์ในคลังบริษัท ท่ามกลางความประหลาดใจของตลาดการเงิน เนื่องจากเป็นแนวทางที่ไม่ค่อยพบในบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทวางแผนที่จะถือครอง XRP ในระยะยาว พร้อมทั้งมุ่งสร้างรายได้ผ่านการวางสินทรัพย์ลงในระบบสเตกกิ้ง

จากแถลงของบริษัท แนวทางดังกล่าวจะเริ่มต้นด้วยวงเงินสูงสุด 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 278 พันล้านวอน) ซึ่งจะใช้เงินทุนที่ระดมจากการขายหุ้นโดยร่วมมือกับ GHS Investments โดยอ้างอิงตามเอกสารลงทะเบียน S-1 ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ(SEC) เมื่อสำเร็จการออกหลักทรัพย์ รายได้ที่ได้จะถูกนำไปใช้เพื่อซื้อ XRP และสนับสนุนโครงการด้านเงินทุนอื่นๆ

ราคาหุ้นของเนเจอร์ส มิราเคิลก็พุ่งขึ้นทันทีทันใด โดยหลังจากข่าวประกาศ ราคาพุ่งขึ้นกว่า 110% ภายในวันเดียว จนแตะระดับ 0.11 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 153 วอน) สะท้อนความคาดหวังของตลาดต่อ *กลยุทธ์ทางการเงินผ่าน XRP* ที่อาจกลายเป็นต้นแบบใหม่

เจมส์ ลี(James Li) ซีอีโอของบริษัทกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "หลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เซ็นรับรองกฎหมาย GENIUS จำนวนองค์กรที่ยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในฐานะเครื่องมือทางการเงินหลักก็เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน" พร้อมเสริมว่า "XRP เปิดทางให้ธุรกรรมที่รวดเร็วและลดต้นทุน ซึ่งจะหนุนทั้งประสิทธิภาพของธุรกิจและมูลค่าของผู้ถือหุ้น"

แม้ว่าในช่วงเวลานี้ ตลาด XRP กำลังเผชิญภาวะขาลง โดยราคาลดลงมากกว่า 10% ภายใน 24 ชั่วโมง ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap ที่รายงานถึงการเทขายและการล้างโพสิชันครั้งใหญ่ แต่หากมองทั้งปี XRP ยังคงปรับตัวขึ้นถึง *395%* เมื่อเทียบกับต้นปี ซึ่งเน้นให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับอัลต์คอยน์อื่น

ไม่เพียงแต่เนเจอร์ส มิราเคิล บริษัทอื่นก็เข้าร่วมขบวนเช่นกัน โดย *บีโวพาวเวอร์(VivoPower)* ผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานหมุนเวียน เพิ่งระดมทุนได้ 121 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.68 แสนล้านวอน) ผ่านการขายหุ้น 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 6.05 ดอลลาร์ โดยประกาศชัดเจนว่าจะนำเงินทั้งหมดมาใช้ซื้อ XRP

ทางด้านบริษัทเภสัชกรรมอย่าง *เวลจิสติกส์ เฮลธ์(Wellgistics Health)* ได้ใช้วงเงินสินเชื่อแบบ ELOC มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 695 พันล้านวอน) เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินบน XRP ในขณะที่บริษัทด้านเทคโนโลยีจากสิงคโปร์ *ไทรเดนท์(Trident)* ก็ประกาศแผนการลงทุน XRP สูงถึง 500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 6.95 แสนล้านวอน)

กระแสการเปลี่ยนผ่านนี้ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า *XRP กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลในคลังสำหรับนักลงทุนสถาบัน* ที่ต้องการทางเลือกทางการเงินรูปแบบใหม่ ซึ่งด้วยการผ่อนคลายกฎระเบียบและการขยายตัวของเทคโนโลยี โอกาสที่บริษัทจดทะเบียนอื่นจะหันมาใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเงินจึงมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ

<ลิขสิทธิ์ ⓒ TokenPost ห้ามเผยแพร่หรือแจกจ่ายซ้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต>

บทความที่มีคนดูมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

ความคิดเห็น 0

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม

0/1000

ข้อแนะนำสำหรับความคิดเห็น

ขอบคุณสำหรับบทความดี ๆ ต้องการบทความติดตามเพิ่มเติม เป็นการวิเคราะห์ที่ยอดเยี่ยม
1