นักลงทุนระยะยาวที่ถือครอง *บิตคอยน์(BTC)* มาตั้งแต่ยุค ‘ซาโตชิ’ ได้ทำการโอนสินทรัพย์มูลค่ากว่า 1.64 หมื่นล้านบาทไปยังตลาดซื้อขายแบบรวมศูนย์ (CEX) ซึ่งก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับ *ความเป็นไปได้ในการปรับฐานของราคา* โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นก่อนช่วงสุดสัปดาห์ที่มีสภาพคล่องต่ำ
ตามข้อมูลล่าสุด บิตคอยน์จำนวน 10,000 เหรียญ หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.64 หมื่นล้านบาท) ถูกโอนออกมาจากกระเป๋าที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2011 โดยมีรายงานว่าเจ้าของสินทรัพย์นี้เป็นหนึ่งใน ‘วาฬยุคซาโตชิ’ ซึ่งเป็นผู้ลงทุนในยุคแรกเริ่มของบิตคอยน์ก่อนที่ตลาดคริปโตจะเป็นที่รู้จักในระดับสากล
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม วาฬรายนี้ได้โอนบิตคอยน์ 40,000 เหรียญ (คิดเป็นมูลค่าประมาณ 6.39 หมื่นล้านบาท) และวันที่ 18 กรกฎาคม ก็ได้โอนอีก 40,000 เหรียญไปยังกระเป๋าที่มีความเชื่อมโยงกับ *แกแล็กซี่ดิจิทัล(Galaxy Digital)*
จากข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน *Lookonchain* ระบุว่า แกแล็กซี่ดิจิทัลได้กระจายเหรียญส่วนหนึ่งมากกว่า 10,000 เหรียญไปยังตลาดซื้อขายหลักอย่าง *ไบแนนซ์*, *บายบิท*, *บิตสแตมป์*, *คอยน์เบส* และ *OKX* ซึ่งยิ่งทำให้ตลาดหวาดระแวงว่าอาจมีการเทขายเพิ่มเติมในตลาดสปอต
Lookonchain ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บิตคอยน์ที่มีการเคลื่อนไหวครั้งนี้ มาจากกระเป๋าที่เคยถือเหรียญมากถึง 80,000 เหรียญ และปัจจุบันมีมูลค่ารวมเกือบ 1.34 แสนล้านบาท โดยให้ความเห็นว่า "พฤติกรรมของกระเป๋านี้อาจเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อทิศทางตลาดในระยะนี้ได้"
*ความคิดเห็น*: การเคลื่อนไหวต่อเนื่องของบิตคอยน์จากกระเป๋าที่ไม่ได้เคลื่อนไหวมานานหลายปี เป็นตัวกระตุ้นแรงกดดันทางจิตวิทยาในหมู่นักลงทุนรายย่อย อย่างไรก็ตาม ราคาจะได้รับแรงกดดันอย่างแท้จริงก็ต่อเมื่อมีการวางขายสินทรัพย์ดังกล่าวในตลาดอย่างชัดเจน ซึ่งนักลงทุนควรจับตาพฤติกรรมการขายจากกระเป๋าเหล่านี้อย่างใกล้ชิดในช่วงเวลาอันใกล้นี้
ความคิดเห็น 0