บิตคอยน์(BTC) กำลังเข้าสู่ช่วงขาขึ้นแบบทะลุแนวต้านอีกครั้ง ซึ่งส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดอาจทะลุระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1,390 ล้านล้านวอน) ได้ในไม่ช้า ผู้เชี่ยวชาญมองว่ากระแส ‘ดูดซับอุปทาน’ โดยสถาบันการเงินที่ค่อยๆ เข้าซื้อบิตคอยน์อย่างเงียบๆ กำลังสร้างโมเมนตัมที่แข็งแกร่งในระดับที่สามารถเทียบเคียงได้กับยุคดอตคอมบูม หากแนวโน้มนี้ยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ก็อาจเปิดทางให้บิตคอยน์แตะระดับ *1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 13.9 ล้านบาท)* ในอนาคต
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทด้านบริการทางการเงินอย่างสวอน(Swan) ได้โพสต์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียว่า การเพิ่มขึ้นของราคาบิตคอยน์ในรอบนี้ไม่ใช่เพียงความร้อนแรงจากนักเก็งกำไร แต่เป็นตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยแผนกลยุทธ์ที่ถูกคำนวณมาอย่างดี โดยเฉพาะจากฝ่ายบริหารทางการเงินของบริษัทระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน(CFO) หรือประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศ(CIO) ที่เริ่มทยอยซื้อบิตคอยน์เพื่อเสริมความสมดุลในพอร์ตการลงทุนในรูปแบบที่เป็นระบบผ่านกลยุทธ์ที่เรียกว่า ‘ดริปบาย’ (Drip Buy) ซึ่งเป็นการซื้อแบบค่อยเป็นค่อยไปผ่านอัลกอริธึมโดยไม่ให้สะดุดตาตลาด
อเมริกัน ฮอเดิล(American HODL) อินฟลูเอนเซอร์สายคริปโตชื่อดัง แสดงความคิดเห็นว่า บรรยากาศที่เงียบสงบในตอนนี้อาจไม่ยืนยาว เพราะเมื่อใดที่บิตคอยน์เริ่มปรากฏอยู่ในงบการเงินของบริษัทต่างๆ จะเกิดคลื่นการเข้าซื้อจากองค์กรทั้งโลก คล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นช่วง ‘ดอตคอมบับเบิล’ ปี 1999 ซึ่งสามารถลามไปสู่ภาวะการซื้อสินทรัพย์แบบเป็นลูกโซ่
ในรายงานของสวอน ยังได้ระบุ ‘โรดแมปสู่บิตคอยน์ 1 ล้านดอลลาร์’ จำนวน 4 ขั้นตอน ได้แก่ การซื้อขององค์กรผ่านอัลกอริธึม, การสะสม BTC ในระดับประเทศแบบไม่เป็นทางการ, การเข้าซื้ออย่างมุ่งมั่นจากสถาบันการเงินขนาดใหญ่ และการระบาดของ ‘ไวรัสทางเนื้อหา’ ที่สร้างแรงกระเพื่อมเชิงจิตวิทยาในตลาด หากชิ้นส่วนเหล่านี้เข้าที่เรียบร้อย สวอนเชื่อว่า BTC จะสามารถขึ้นไปแตะระดับ 1 ล้านดอลลาร์ได้ผ่านการขับเคลื่อนจากนักลงทุนแบบฮาร์ดคอร์
ประวัติราคาในช่วงก่อนหน้านี้ก็แสดงให้เห็นศักยภาพ เช่น บิตคอยน์เคยพุ่งจาก 42,000 ดอลลาร์สู่ 123,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.8-17 ล้านบาท) แม้อยู่ในช่วงนโยบายการเงินตึงตัว สวอนตั้งคำถามว่า “หากสภาพคล่องกลับเข้าสู่ระบบอีกครั้ง ราคาจะพุ่งไปได้แค่ไหน?”
ในขณะเดียวกัน รอบตลาดปัจจุบันยังมีชื่อของบริษัทจัดการสินทรัพย์รายใหญ่ เช่น นากาโมโตะ, ทเวนตี้วัน แคปิตอล(Twenty One Capital) และสไตรฟ์ แอสเซต แมนเนจเมนต์(Strive Asset Management) ที่กำลังเตรียมเข้าสู่ตลาดบิตคอยน์อย่างเงียบๆ ผ่านวิธีการตั้งกองทุนแบบ SPV และการทำดีลควบรวม(M&A) เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการทุ่มทุนก้อนใหญ่
แม้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า บิตคอยน์จะสามารถไปถึงระดับราคาสัญลักษณ์ *1 ล้านดอลลาร์* ได้จริงหรือไม่ แต่เส้นทางของมันก็เริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จากปัจจัยเสริมเบื้องหลังที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการรอจุดประกาย(Trigger) จากสถาบันใหญ่ๆ ที่อาจทำให้ตลาดเปลี่ยนทิศแบบฉับพลัน นักลงทุนจึงควรจับตาความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างรอบคอบ
ความคิดเห็น 0