หลังจากการล้มละลายกว่า 3 ปี FTX ได้เริ่มกระบวนการชำระคืนเจ้าหนี้ โดยคาดว่าจำนวนเงินทั้งหมดที่จ่ายคืนจะสูงสุดถึง 17,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 624,000 ล้านบาท)
FTX ได้เริ่มต้นการชำระคืนงวดแรกตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ โดยให้ความสำคัญกับเจ้าหนี้ที่มีการเรียกร้องต่ำกว่า 50,000 ดอลลาร์ ซึ่งถูกจัดอยู่ในกลุ่ม ‘Convenience Class’ หรือกลุ่มที่ได้รับผลประโยชน์พิเศษ กลุ่มนี้ได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวนพร้อมดอกเบี้ย 9% และตามข้อมูลของ FTX กระบวนการจ่ายเงินจะเสร็จสิ้นภายใน 3 วันทำการ
กระบวนการชำระคืนได้รับการดูแลโดยบริษัทรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง BitGo และแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต Kraken ขณะที่ซูนิล คาวารา(Sunil Kavara) ตัวแทนของกลุ่มเจ้าหนี้ FTX ระบุว่า มีเจ้าหนี้ประมาณ 162,000 รายที่จะได้รับเงินงวดแรก คิดเป็นเพียงบางส่วนของคำร้องทั้งหมดที่มีมากถึง 460,000 ราย
อย่างไรก็ตาม เจ้าหนี้ที่มียอดเรียกร้องเกินกว่า 50,000 ดอลลาร์ อาจต้องรอการชำระเงินนานขึ้น โดยมีกำหนดชำระคืนตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 หลังจากที่ FTX เปิดเผยแผนการจ่ายเงินอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 เมษายน และเริ่มดำเนินการคืนเงินตั้งแต่วันที่ 30 พฤษภาคม เจ้าหนี้กลุ่มนี้ต้องผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และยื่นเอกสารภาษีเพื่อรับเงิน หากไม่ส่งเอกสารตามกำหนด จะต้องรอรอบการชำระเงินถัดไป
ตามแผนการชำระคืนของ FTX เจ้าหนี้อาจได้รับคืนในอัตราเฉลี่ย 123-138% ของเงินต้น ซึ่งหมายความว่าบางรายอาจได้รับเงินมากกว่าที่เคยเรียกร้องไว้ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขสุดท้ายยังขึ้นอยู่กับการตัดสินของศาลและสถานะทรัพย์สินที่เหลือของ FTX
ขณะเดียวกัน การขายทรัพย์สินของ FTX ส่งผลกระทบต่อตลาดโซลานา(SOL) โดยเมื่อเร็วๆ นี้ FTX ได้ทำการขายเหรียญ SOL ที่ถือครองอยู่ ส่งผลให้ราคาโซลานาตกลงกว่า 10% ภายในวันเดียว และลดลงมาที่ระดับ 160 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,900 บาท) นอกจากนี้ ยังมีโทเคน SOL อีก 11.2 ล้านเหรียญที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเดิมของ FTX ซึ่งมีกำหนดจะเข้าสู่ตลาด อาจเป็นปัจจัยกดดันราคาเพิ่มเติม
ความคิดเห็น 0