นักลงทุนเริ่มเข้าลงทุนใน ‘อัล트คอยน์ขนาดเล็กที่ยังไม่ถูกราคาประเมินเต็มมูลค่า’ อย่างคึกคัก เพื่อเตรียมรับกระแสขาขึ้นของตลาดคริปโตในปี 2025 ที่กำลังจะมาถึง โดยนักวิเคราะห์คริปโตรายหนึ่งระบุว่า มี 2 โครงการในเครือข่ายอีเธอเรียม(ETH) และอาวาแลนช์(AVAX) ที่น่าจับตามอง ซึ่งอาจกลายเป็นผู้นำในการฟื้นตัวครั้งใหญ่ของระบบการเงินไร้ศูนย์กลาง(DeFi)
โครงการแรกคือ *แอร์โรโดรม(Aerodrome)* ซึ่งให้บริการบนเครือข่าย ‘เบส(Base)’ ในระบบนิเวศของอีเธอเรียม แม้จะยังไม่ใช่แพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเงินฝาก(TVL) สูงสุด แต่ในแง่ของ ‘กำไรและค่าธรรมเนียมที่สร้างรายได้’ แอร์โรโดรมสามารถครองอันดับ 1 บนเบสได้อย่างโดดเด่น การใช้เหรียญเสถียรภายในเบสเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้รายได้ของแอร์โรโดรมเติบโตต่อเนื่อง สิ่งนี้ทำให้แอร์โรโดรมได้เปรียบเหนือคู่แข่งอย่าง มอร์โฟ(Morpho) และสปาร์ค(Spark)
จากมุมมองทางเทคนิค ราคาของโทเคนแอร์โรโดรมกำลังเคลื่อนตัวในกรอบสะสมมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งอาจเป็น ‘โอกาสในการเข้าซื้อบริเวณราคาต่ำ’ อีกครั้ง หาก *บิตคอยน์(BTC)* สามารถรักษาแนวโน้มราคาทรงตัวได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่แอร์โรโดรมจะเข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่
ส่วนโครงการที่สองคือ *แบล็กโฮล(BlackHole)* ซึ่งเป็นโทเคน DeFi ตัวใหม่บนบล็อกเชนอาวาแลนช์ แม้จะเพิ่งเปิดตัวไม่นาน แต่ก็สามารถสร้างมูลค่าเงินฝากกว่า ‘200 ล้านดอลลาร์’ (ราว 2,780 ล้านบาท) และรายได้ค่าธรรมเนียมถึง ‘100 ล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 1,390 ล้านบาท) แซงหน้าโครงการเก่าในระบบนิเวศของอาวาแลนช์ได้อย่างรวดเร็ว จุดขายสำคัญของแบล็กโฮลคือเทคโนโลยี *บริดจ์ข้ามเชน* ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการโอนเหรียญต่างๆ เช่น *PEPE* ข้ามเครือข่ายอย่างราบรื่น ส่งเสริมให้ผู้ใช้งานระบบ DeFi เข้าถึงบริการได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า อาวาแลนช์กำลังเจรจาขยายความร่วมมือกับสถาบันระดับองค์กร หากเป็นจริง แบล็กโฮลอาจได้รับการประเมินใหม่ให้กลายเป็น ‘โครงสร้างพื้นฐานหลัก’ สำหรับระบบ DeFi ในอนาคต ล่าสุดแพลตฟอร์มมียอดรวมการทำธุรกรรมทะลุ ‘1 พันล้านดอลลาร์’ (ประมาณ 1.39 หมื่นล้านบาท) และจำนวนผู้ใช้งานก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง *ความคิดเห็น* คือ แบล็กโฮลกำลังก้าวขึ้นเป็นผู้นำแห่งบล็อกเชนยุคใหม่
ในสภาพตลาดที่ยังเปราะบางเช่นนี้ อัลต์คอยน์ขนาดเล็กที่มี ‘ศักยภาพทางเทคโนโลยี’ และ ‘พื้นฐานการสร้างรายได้’ ที่ชัดเจน อาจกำลังสะสมพลังเพื่อ ‘ระเบิดขึ้นในขาขึ้นใหม่ของปี 2025’ นักลงทุนจึงควรจับตามองโอกาสที่อยู่เบื้องหลังความเงียบในตลาดเวลานี้อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0