ริปเปิล(XRP) กำลังเผชิญแรงขายทำกำไรอย่างเห็นได้ชัด หลังราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 3.666 ดอลลาร์ (ประมาณ 5.09 ล้านบาท) ก่อนจะปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลล่าสุดระบุว่า XRP ลดลง 8.44% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 3.18 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.42 ล้านบาท) ขณะที่ปริมาณการซื้อขายก็ลดลงถึง 42% มาอยู่ที่ 4.04 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5.61 ล้านล้านบาท) สะท้อนภาพตลาดที่กำลัง ‘รอจังหวะ’ การเคลื่อนไหวครั้งต่อไป
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะที่บิตคอยน์(BTC) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และนักวิเคราะห์หลายรายประเมินว่าแนวโน้ม ‘การฟื้นตัวของเหรียญรอง’ กำลังชะลอตัวตามมา เนื่องจากความเหนื่อยล้าในตลาดโดยรวม สำหรับ XRP ถูกพบว่ามีแนวรับสำคัญบริเวณ 2.96 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.11 ล้านบาท) และขยับอยู่ภายในกรอบ 3.24 ดอลลาร์ (ประมาณ 4.50 ล้านบาท) บ่งชี้ว่าราคาอยู่ในช่วง ‘พักฐานระยะสั้น’
แม้ว่าการลดลงของปริมาณการซื้อขายมักถูกตีความว่าเป็นสัญญาณเชิงลบ แต่ไม่จำเป็นต้องนำไปสู่แนวโน้มขาลงเสมอไป ในทางกลับกัน นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ตลาดกำลังอยู่ในช่วง ‘เดดโซน’ ที่นักลงทุนรอดูทิศทางที่ชัดเจนก่อนจะเข้าสู่รอบใหม่ ซึ่งหมายความว่า XRP กำลังอยู่ตรง ‘จุดเปลี่ยนสำคัญ’ ระหว่างการเบรกทะลุแนวต้านหรือหลุดแนวรับลงไป
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ซึ่งจะตัดสินใจเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยในไม่ช้านี้ เพราะถ้าการลดดอกเบี้ยเกิดขึ้นจริง อาจช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และส่งผลดีต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างคริปโตเคอร์เรนซีในภาพรวม หากความไม่แน่นอนนี้ถูกปลดล็อก ก็อาจทำให้ XRP เปลี่ยนทิศอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ท่ามกลางความเงียบสงบในตอนนี้ สัญญาณจากราคาและปริมาณการซื้อขายชี้ให้เห็นว่า ‘XRP อาจกำลังสะสมแรงเพื่อการเคลื่อนไหวครั้งใหม่’ ซึ่งหากปัจจัยมหภาคเข้าหนุนบวก และสัญญาณทางเทคนิคหันกลับมาแสดงแนวโน้มขาขึ้น โอกาสสำหรับการเริ่มต้นของคลื่นขาขึ้นรอบใหม่ก็อาจอยู่แค่เอื้อม
ความคิดเห็น 0