ตลาดผลิตภัณฑ์การลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีของสหรัฐฯ กำลังมีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุด ตลาดหลักทรัพย์ออปชันชิคาโก(CBOE) ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนกองทุน ETF แบบมีการสเตก โดยใช้เหรียญอินเจกทีฟ(INJ) เป็นสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่งได้รับการเสนอจากบริษัทแคนนารี แคปิตอล(Canary Capital) การยื่นขอครั้งนี้ถือเป็นก้าวย่างสำคัญในการขยายผลิตภัณฑ์ ETF แบบมีการสเตก(Steaking ETF) ภายใต้กรอบของหน่วยงานกำกับดูแล
เอกสารที่ยื่นล่าสุดนี้เป็นเอกสารประเภท 19b-4 ซึ่งต่อยอดจากเอกสาร S-1 ที่แคนนารี แคปิตอลได้ยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุโครงสร้างและแนวทางดำเนินงานของ ETF ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักลงทุนใช้ ‘แพลตฟอร์มสเตกที่ได้รับอนุมัติ’ เพื่อลงทุนในบริการตรวจสอบธุรกรรม และรับผลตอบแทนในรูปแบบ ‘รางวัลจากการสเตก’
หากกองทุนนี้ได้รับการอนุมัติ ก็จะกลายเป็น ‘กองทุน ETF ที่อิงกับอัลท์คอยน์และใช้ระบบสเตกกิ้งกองที่ 3’ หลังจากเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน SEC ได้อนุมัติสเตกกิ้งโซลานา(SOL) ETF และสเตกกิ้งอีเธอเรียม(ETH) ETF ไปก่อนหน้านี้ โดยกองทุน INJ ETF ที่เสนอใหม่นี้มีโมเดลที่คล้ายกัน นั่นคือการสร้างรายได้จาก ‘รางวัลสเตกกิ้ง’ แทนการพึ่งพาความผันผวนของราคา
ทิศทางการอนุมัติผลิตภัณฑ์ ETF ที่เกี่ยวข้องกับการสเตกอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้ม ‘ความหลากหลายในผลิตภัณฑ์การเงินคริปโตในสหรัฐฯ’ ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภายใต้การบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งให้น้ำหนักกับแนวทางที่ยืดหยุ่นต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ถือเป็น ‘สัญญาณบวก’ ที่ได้รับเสียงตอบรับจากอุตสาหกรรมนี้
ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในภาคการเงินระบุว่า “ตราบใดที่ยังมีผู้ลงทุนจำนวนมากต้องการเข้าถึงสินทรัพย์คริปโตภายใต้กรอบกฎหมายอย่างปลอดภัย โมเดล ETF รูปแบบต่าง ๆ ก็จะยังคงถูกพัฒนาขึ้นต่อเนื่อง”
หาก ETF ที่อิงกับ INJ ได้รับการอนุมัติ จะเป็นการเปิดทางใหม่ให้ทั้งนักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการสามารถดำเนินงานภายใต้กรอบกฎระเบียบที่ชัดเจน ขณะนี้แม้ยังไม่มีการเปิดเผยกำหนดวันอนุมัติอย่างเป็นทางการ แต่การเคลื่อนไหวของ CBOE และ SEC ก็สะท้อนให้เห็นถึง ‘การเปิดศักราชใหม่ของยุค ETF คริปโต’ อย่างชัดเจน
ความคิดเห็น 0