โครงการ *ไฟเน็ตเวิร์ก(Pi Network)* กลับมาตกเป็นประเด็นถกเถียงอีกครั้ง หลังทีมพัฒนาเผยแนวทางใหม่สำหรับการย้ายไปสู่เมนเน็ต แต่ผู้ใช้จำนวนมากยังคงเผชิญ ‘ปัญหาการตรวจสอบสิทธิ์’ และขั้นตอนที่ทำค้างอยู่เป็นเวลาหลายเดือน แม้ว่าจะทำการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2FA) เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม
เมื่อวันที่ 24 ทีม *ไฟเน็ตเวิร์ก* ได้ประกาศผ่านบัญชีทางการ @PiCoreTeam บนแพลตฟอร์ม X (เดิมคือทวิตเตอร์) ว่าผู้ใช้ที่ยังไม่ย้ายเข้าสู่เมนเน็ตอย่างสมบูรณ์ จำเป็นต้องตรวจสอบขั้นตอนที่ 3 ในรายการตรวจสอบภายใน ‘กระเป๋าไฟวอลเล็ต (Pi Wallet)’ และเปิดใช้งาน ‘2FA’ อย่างเป็นทางการ โดยทีมย้ำว่า หากไม่ดำเนินการดังกล่าวจะไม่สามารถโอนเหรียญ *ไฟ(PI)* เข้าสู่เมนเน็ตได้
คำชี้แจงนี้ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อย่างหนักจากผู้ใช้งาน หนึ่งในผู้ใช้รายหนึ่งที่โพสต์บน X ระบุว่า “ผมทำ 2FA เสร็จไปหลายเดือนแล้ว แต่สถานะยังค้างอยู่” โดยมีคอมเมนต์จากผู้ใช้อื่น ๆ ที่เจอปัญหาเดียวกันจำนวนมาก ขณะที่ผู้ใช้อีกรายซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 30,000 รายเผยว่า ทีมงานไม่ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้เกี่ยวกับ ‘โบนัสสำหรับผู้ใช้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนแล้ว’ พร้อมวิจารณ์ถึง *ความน่าเชื่อถือของโครงการ*
ปัญหานี้สะท้อนถึงความล่าช้าในการตรวจสอบเพื่อย้ายไปยัง *เมนเน็ต* ที่ยังไร้คำอธิบายที่ชัดเจน แม้เครือข่ายเมนเน็ตจะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 (หลังจากเลื่อนมาหลายครั้ง) แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถโอนเหรียญเข้าเครือข่ายได้ตามที่ควร
อย่างไรก็ตาม ทีมพัฒนา *ไฟเน็ตเวิร์ก* ยังได้อัปเดตเกี่ยวกับ *แอปพลิเคชัน ‘Pi App Studio’* ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างแอปแบบ *โนโค้ด (No-code)* ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันบนเครือข่าย *ไฟเน็ตเวิร์ก* ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านเทคนิค ทีมงานยังอธิบายว่าแพลตฟอร์มนี้รวมเทคโนโลยี ‘บล็อกเชนและปัญญาประดิษฐ์’ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแปลงไอเดียและความเชี่ยวชาญของตนเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานจริงและพัฒนาเป็นธุรกิจในอนาคตได้
ความคิดเห็น: แม้ทิศทางของ *ไฟเน็ตเวิร์ก* จะมุ่งเน้นการสนับสนุนการสร้างระบบ *ดีแอป (dApp)* แบบกระจายศูนย์ แต่หากไม่สามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นจากผู้ใช้งานได้ ความพยายามในการขยายระบบนิเวศก็ดูจะยากที่จะประสบความสำเร็จในทางปฏิบัติ ผู้ใช้งานยังคงจับตามอง *มาตรการต่อไปของทีมพัฒนา* อย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0