วุฒิสมาชิกเอลิซาเบธ วอร์เรน ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำพรรคเดโมแครตที่แสดงจุดยืนแข็งกร้าวต่ออุตสาหกรรมคริปโต ได้ร่วมกับวุฒิสมาชิกคริส แวน ฮอลเลน และรอน ไวดัน ร้องขอให้หน่วยงานกำกับดูแลธนาคารของสหรัฐฯ ดำเนินการสอบสวนความเกี่ยวข้องของประธานาธิบดีทรัมป์และครอบครัวกับธุรกิจคริปโต โดยมีข้อกังวลว่าอาจมีการแสวงหาประโยชน์ส่วนตัวผ่านกิจกรรมในอุตสาหกรรมดังกล่าว
เมื่อวันที่ 24 (เวลาท้องถิ่น) ทั้งสามได้ยื่นจดหมายถึงโจนาธาน กูลด์ หัวหน้าสำนักงานควบคุมเงินตราแห่งสหรัฐฯ (OCC) ระบุว่า *ครอบครัวของทรัมป์มีการใช้ธุรกิจคริปโตเพื่อประโยชน์ส่วนตัว* ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความเป็นกลางของ OCC และเสถียรภาพของระบบการเงิน สหรัฐฯ พร้อมเรียกร้องให้ OCC ชี้แจงอย่างละเอียดว่า หน่วยงานมีมาตรการหรือแผนดำเนินการเช่นไร เพื่อจัดการกับความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในกรณีนี้
มีรายงานว่าในช่วงที่ผ่านมา ทรัมป์และคนในครอบครัวมีความเชื่อมโยงกับบริษัทคริปโตในหลายด้าน ทั้งด้านการขุดเหรียญ ไปจนถึงแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต โดยบางรายกำลังเตรียมออก *สเตเบิลคอยน์* ของตัวเองเพื่อใช้ขยายธุรกิจ ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของพวกเขาในตลาดคริปโต
จุดเริ่มของข้อสงสัยนี้เกิดขึ้นหลังจาก *กฎหมาย GENIUS* ที่มีผลบังคับใช้ไม่นานมานี้ ได้แต่งตั้งให้ OCC เป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมตลาด *สเตเบิลคอยน์* ในสหรัฐฯ ซึ่งนำไปสู่การตั้งคำถามว่า การมีส่วนร่วมของทรัมป์และครอบครัวในอุตสาหกรรมคริปโต อาจก่อให้เกิด *ปัญหาด้านผลประโยชน์ทับซ้อน* กับอำนาจกำกับดูแลของ OCC
วอร์เรนเคยแสดงความเห็นหลายครั้งว่า *อุตสาหกรรมคริปโตยังคงอยู่ในพื้นที่สีเทาทางกฎหมาย* และควรถูกกำกับอย่างเข้มงวดไม่ต่างจากภาคการเงินกระแสหลัก โดยล่าสุด หนังสือร้องเรียนฉบับนี้ชี้ให้เห็นถึงความกังวลเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์ภายในจากครอบครัวผู้นำประเทศ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางการกำกับดูแลของ OCC ในอนาคต ความคิดเห็น: หากมีการตรวจสอบอย่างจริงจัง การเคลื่อนไหวนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบต่อการควบคุมคริปโตในสหรัฐฯ
ความคิดเห็น 0