คณะกรรมาธิการกิจการธนาคารวุฒิสภาสหรัฐฯ ได้รับข้อเสนอแนะอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานล็อบบี้ในอุตสาหกรรมบล็อกเชน ‘DeFi Education Fund’ (DEF) เกี่ยวกับร่างกฎหมายควบคุม *การเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi)* ฉบับล่าสุด โดย DEF แสดงความกังวลว่าร่างดังกล่าวอาจขัดขวาง ‘นวัตกรรม’ และเรียกร้องให้ทบทวนร่างใหม่ภายใต้แนวคิด ‘เทคโนโลยีเป็นกลาง’
จุดยืนของ DEF ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกองค์กรรายใหญ่ เช่น a16z คริปโต, ยูนิสวอป(Uniswap) แลบส์ และพาราไดม์(Paradigm) โดยข้อมูลถูกส่งตรงถึงคณะกรรมาธิการฯ เพื่อชี้แจงข้อโต้แย้งต่อร่าง ‘พระราชบัญญัติส่งเสริมการเงินอย่างมีความรับผิดชอบ ปี 2025’ (Responsible Financial Innovation Act: RFA) ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวอยู่ระหว่างพิจารณาในขณะนี้
DEF ระบุว่าร่างกฎหมายฉบับนี้เน้นความรับผิดชอบกับ *ตัวกลาง* มากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อ *นักพัฒนา* ที่แท้จริงและสร้างภาระโดยไม่จำเป็น พวกเขาเน้นย้ำว่า ผู้ใช้งานชาวอเมริกันควรมี ‘สิทธิ์ในการเก็บรักษาทรัพย์สินดิจิทัลด้วยตนเอง (self-custody)’ อย่างชัดเจน พร้อมเสริมว่าแม้การจัดการกับการฟอกเงินเป็นเรื่องสำคัญ แต่ไม่ควรใช้เป็นข้ออ้างเพื่อกำหนดนโยบายที่เป็น ‘อุปสรรค’ ต่อการเติบโตของภาค DeFi
เอกสารดังกล่าวถูกส่งถึงวุฒิสมาชิกสำคัญ ได้แก่ ทิม สก็อตต์, ซินเธีย ลูมิส, บิล แฮกเกอร์ตี้ และเคที่ บริตต์ ซึ่งมีบทบาทในการกำกับทิศทางของร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง
คณะกรรมาธิการกิจการธนาคารฯ ระบุว่าพวกเขา ‘ยินดี’ ต่อข้อเสนอแนะในครั้งนี้ และกำลังพัฒนาแนวทางควบคุมตลาด DeFi บนพื้นฐานของร่าง ‘พระราชบัญญัติสร้างความชัดเจนของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล ปี 2025’ (Digital Asset Market Clarity Act of 2025) ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อปกป้องนักลงทุน เสริมสร้างความมั่นคงของระบบการเงิน และไม่เป็นอุปสรรคต่อ *นวัตกรรมภาคอุตสาหกรรม*
ปัจจุบันอุตสาหกรรม DeFi มีมูลค่าสูงถึง 141,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 196 ล้านล้านวอน โดยถือเป็นกลุ่มตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและอยู่ภายใต้เรดาร์ของผู้กำหนดนโยบาย
การถกเถียงด้านนโยบายในครั้งนี้ยิ่งได้รับความสนใจ เนื่องจากสอดรับกับท่าที *เป็นมิตรต่อคริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์* ซึ่งอาจสะท้อนแนวโน้มทิศทางด้านกฎระเบียบในช่วงเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ความคาดหวังหลักจากภาคอุตสาหกรรมตอนนี้คือ ร่างกฎหมายฉบับสุดท้ายควรสร้าง *สมดุลระหว่างเทคโนโลยี สิทธิผู้ใช้ และประสิทธิภาพของกฎหมายอย่างมีเหตุผล*
ความคิดเห็น 0