บิตคอยน์(BTC) อาจยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกสูงสุด 27% ภายในรอบวัฏจักรปัจจุบัน จากการคาดการณ์โดย สตีเวน แมคลัก(Steven McClurg) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของแคนนารี แคปิตอล(Canary Capital) ซึ่งระบุระหว่างการให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันที่ 24 ว่า มีโอกาสมากกว่า 50% ที่บิตคอยน์จะสามารถแตะระดับราคา *140,000–150,000 ดอลลาร์* (ราว 1.95–2.08 ล้านบาท) ภายในปีนี้ ก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงตลาดหมีในปีหน้า ตัวเลขดังกล่าวเท่ากับโอกาสการปรับขึ้นจากราคาปัจจุบันที่ *117,867 ดอลลาร์* (ประมาณ 1.64 ล้านบาท) อีก *19% ถึง 27%*
แมคลักยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับ *ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ* โดยระบุว่า “สถานการณ์ทางเศรษฐกิจขณะนี้ไม่เอื้อต่อการเติบโต” และชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ควรปรับลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่การประชุมของคณะกรรมการ FOMC สองครั้งที่ผ่านมาแล้ว โดยเขาประเมินว่า มี *ความเป็นไปได้สูงที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายนและตุลาคมนี้* ทั้งนี้ ข้อมูลจากเครื่องมือ CME FedWatch Tool ยังสะท้อนว่า ตลาดให้น้ำหนักถึง *92.5%* ต่อความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยในเดือนกันยายน
ความเห็นของแมคลักได้รับความสนใจจากนักลงทุนที่กำลังพิจารณา *การทำกำไรจากช่วงราคาที่ร้อนแรงใกล้จุดสูงสุด* โดยเขาเตือนว่า หากพิจารณาปัจจัยด้านเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายการเงินร่วมกันแล้ว *การพุ่งขึ้นของราคาบิตคอยน์ในรอบนี้อาจเป็นช่วงสุดท้ายก่อนเข้าสู่การย่อตัว* ความเห็นของเขาสร้างแรงกระตุ้นให้กับทั้งนักลงทุนระยะสั้นและผู้ที่กำลังวางแผนรับมือกับ *ความเสี่ยงเชิงโครงสร้างระดับกลางถึงระยะยาว* ในตลาดคริปโต
ความคิดเห็น 0