ตลาดโทเคนไม่สามารถทดแทนได้ (NFT) สูญเสียมูลค่าตลาดไปราว *1.66 หมื่นล้านบาท* (1.2 พันล้านดอลลาร์) ภายในสัปดาห์เดียว อันเป็นผลจากการที่ราคา *อีเธอเรียม(ETH)* ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักเกิดจากความผันผวนของราคา ETH ที่มีอิทธิพลโดยตรงต่อ NFT ส่วนใหญ่ ซึ่งสร้างขึ้นบนเครือข่ายของอีเธอเรียม
จากข้อมูลของแพลตฟอร์มวิเคราะห์ NFT พร๊ายส์ฟลอร์(NFT Price Floor) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ณ จุดที่อีเธอเรียมลดค่าลงประมาณ 9% จากจุดสูงสุด มูลค่าตลาดรวมของ NFT อยู่ที่ราว *1.12 ล้านล้านบาท* (8.1 พันล้านดอลลาร์) ลดลงจากเมื่อ 5 วันก่อนหน้าที่มีมูลค่าราว *1.29 ล้านล้านบาท* (9.3 พันล้านดอลลาร์) คิดเป็นการลดลงประมาณ 12% ซึ่งชี้ให้เห็นว่าตลาด NFT ที่แข็งแกร่งมาตลอดตั้งแต่กรกฎาคมเริ่มเผชิญแรงกดดันและการปรับฐานในระยะสั้น
ผู้เชี่ยวชาญในตลาดมองว่า การประเมินมูลค่า NFT ที่อิงตามราคาของอีเธอเรียม ส่งผลให้การเปลี่ยนแปลงของ ETH มีผลกระทบโดยตรงต่อตลาดโดยรวม โดยภายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ETH ยังปรับตัวลดลงอีก 4% ซึ่งส่งผลให้คอลเลกชัน NFT ชั้นนำหลายรายการมีมูลค่าลดลงตามไปด้วย
ขณะนี้ อีเธอเรียมมีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ *5.92 แสนบาท* (4,260 ดอลลาร์) ตามข้อมูลของ Cointelegraph ลดลงจากระดับสูงสุดเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ราว *6.53 แสนบาท* (4,700 ดอลลาร์) โดย *ความคิดเห็น* จากนักวิเคราะห์เชื่อว่า หากราคา ETH ฟื้นตัวได้ ก็อาจช่วยดันตลาด NFT ให้กลับเข้าสู่ช่วงฟื้นตัวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ความผันผวนและแนวโน้มขาลงยังคงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
แม้ตลาด NFT จะมีการขยายตัวบนบล็อกเชนอื่น เช่น *โซลานา(SOL)* และ *โพลิกอน(MATIC)* แต่โปรเจกต์ที่พัฒนาอยู่บนเครือข่ายอีเธอเรียมยังครองสัดส่วนขนาดใหญ่ จึงทำให้ความเคลื่อนไหวของราคา ETH ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของตลาด NFT อย่างมีนัยสำคัญต่อไป
ความคิดเห็น 0