ความเป็นไปได้ที่นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเปลี่ยนแปลง กำลังจุดไฟความหวังใหม่นักลงทุนในตลาดบิตคอยน์(BTC) โดยเฉพาะหากประธานาธิบดีทรัมป์เลือกผู้ที่จะมาแทนที่เจอโรม พาวเวล ซึ่งอาจกลายเป็นปัจจัยชี้ชะตาทิศทางของ *บิตคอยน์* ในระยะต่อไป
ตลาดกำลังเฝ้าจับตาความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนปีนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดแรงกดดันจากดอกเบี้ยสูง กระตุ้นความเชื่อมั่นในการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยง และอาจเป็นแรงเสริมเชิงบวกให้กับ ‘บิตคอยน์’ อีกด้วย หากสถานการณ์นี้เกิดพร้อมกับการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลายและการเปลี่ยนแปลงในทีมผู้บริหารเฟด ก็ยิ่งอาจผลักดันให้ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ *ความคิดเห็น*
อเล็กซ์ ครูเกอร์(Alex Krüger) นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง โพสต์บน X (ชื่อเดิม Twitter) เมื่อวันที่ 1 ว่า “วัฏจักรเศรษฐกิจรอบนี้ยังไม่สิ้นสุด” พร้อมชี้ว่าเฟดในยุคใหม่ภายใต้ผู้นำคนใหม่อาจมาพร้อมกับนโยบาย ‘อ่อนตัว’ มากขึ้นกว่าเดิม เขายังระบุอีกว่า “หากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศชื่อผู้ที่จะมาแทนพาวเวลอย่างเป็นทางการ ตลาดจะเริ่มสะท้อนความคาดหวังนี้เข้าราคาอย่างจริงจัง” เน้นย้ำว่า ‘การเปลี่ยนตัวประธานเฟด’ อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนด้านจิตวิทยาการลงทุน
ถึงแม้เจอโรม พาวเวลจะยังเหลือวาระการดำรงตำแหน่งถึงเดือนพฤษภาคม 2026 แต่รายงานข่าวระบุว่าทรัมป์เริ่มเฟ้นหาผู้สมัครแล้ว ซึ่งกลายเป็นแรงดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก
ตลาดบิตคอยน์ historically มีปฏิกิริยาต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายดอกเบี้ยของเฟดอย่างชัดเจน โดยเมื่อนโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น นักลงทุนมักกล้าเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งเป็นตัวผลักดันดีมานด์ของบิตคอยน์และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ ให้ขยายตัว *ความคิดเห็น* ครูเกอร์ยังกล่าวอีกว่า “ณ ตอนนี้ ตลาดบิตคอยน์ยังไม่ได้นำคาดการณ์เรื่องทิศทางนโยบายของเฟดมาเป็นปัจจัยต่อราคาอย่างเต็มที่”
อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่อาจมองข้ามคือ การที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะเลือกใครมาเป็นประธานเฟดคนใหม่ นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญไม่ใช่เพียงเฉพาะในตลาดคริปโต แต่ยังรวมถึงตลาดการเงินโลกโดยรวม หากเป็นบุคคลที่มีแนวทางทางการเงินแบบผ่อนคลายจริง มีแนวโน้มสูงที่จะเกิดกระแส *แรงซื้อ* แพร่กระจายทั้งบิตคอยน์และตลาดอัลท์คอยน์อย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น 0