บิตคอยน์(BTC) ยังคงอยู่ในช่วงขาลงช่วงต้นสัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนระยะสั้นเริ่มทยอย ‘ทำกำไร’ มากขึ้น ขณะที่นักวิเคราะห์กราฟบางรายเตือนว่า บิตคอยน์เริ่มส่งสัญญาณ ‘การอ่อนตัวของสัญญาณดัชนี Divergence เชิงบวก’ ซึ่งอาจตีความได้ว่าตลาดในฝั่งขาขึ้นเริ่มเหนื่อยแรงและกำลังสูญเสียโมเมนตัม
นักวิเคราะห์คริปโตชื่อ กัปตัน เฟย์บิก (Captain Faibik) ระบุผ่าน X เมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า หากบิตคอยน์เข้าสู่ภาวะ ‘ปรับฐานรุนแรง’ ราคามีแนวโน้มถอยลงมายังช่วงแนวรับระหว่าง 98,000–100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.36–1.39 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นโซนราคาทางเทคนิคและระดับ ‘แนวต้านทางจิตวิทยา’ ที่สำคัญอย่างมาก
ในขณะเดียวกัน อีเธอเรียม(ETH) ก็อยู่ในจุดที่ต้องรักษาโมเมนตัม ‘แรงซื้อ’ เหนือแนวรับหลัก นักวิเคราะห์เตือนว่า หากราคา ETH หลุดระดับแนวรับที่ 4,094 ดอลลาร์ (ประมาณ 568,600 บาท) ก็อาจส่งผลเสียต่อทิศทางขาขึ้นในระยะถัดไป
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มระยะกลางถึงยาวของบิตคอยน์ยังคง ‘เป็นบวก’ โดยสตีเวน แมคคลัค(Steven McClurg) ซีอีโอของบริษัทการลงทุนคานารี แคปิตอล(Canary Capital) ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า “มีโอกาสมากกว่า 50% ที่บิตคอยน์จะทะลุ 140,000–150,000 ดอลลาร์ (ราว 1.94–2.08 ล้านบาท) ได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า” พร้อมเสริมว่า ‘ตลาดขาขึ้น’ มีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ต่อ
นอกจากนี้บรรยากาศในตลาดยังได้แรงหนุนจากความคาดหวังเกี่ยวกับ ‘การผ่อนคลายกฎระเบียบ’ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งใหญ่ของสหรัฐ โดยเฉพาะเมื่อประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งออกมาสนับสนุนการขุดบิตคอยน์ ขณะเดียวกันนโยบายในพรรครีพับลิกันก็กำลังชัดเจนยิ่งขึ้นในจุดยืน ‘หนุนคริปโต’ ความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นนี้อาจกลายเป็น ‘แรงกระตุ้น’ สำคัญต่อโมเมนตัมเชิงบวกของบิตคอยน์ในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0