ตลาดคริปโตฯ กำลังเผชิญแรงเทขายครั้งใหญ่ หลังข้อมูล *ออนเชน* เผยว่ามีการเคลื่อนย้าย *ริปเปิล(XRP)* มากกว่า 700 ล้านเหรียญ จากหลายกระเป๋าวาฬตลอดช่วง 10 วันที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.3 ล้านล้านวอน การไหลออกของสินทรัพย์ครั้งนี้ส่งผลให้ราคา XRP ร่วงลงต่ำกว่า 3 ดอลลาร์ และสร้างแรงกดดันต่อทิศทางของตลาดในระยะสั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระเป๋าที่ถือระหว่าง 10 ล้านถึง 100 ล้าน XRP คือกลุ่มหลักที่เข้ามาเทขาย ทำให้ราคา XRP ที่เคยทะยานขึ้นถึง 3.35 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,657 วอน) เมื่อเดือนกรกฎาคม ร่วงลงสู่ระดับ 2.85 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,962 วอน) ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาเล็กน้อยในภายหลัง ปัจจุบันระดับ 3.10 ดอลลาร์ (ประมาณ 4,309 วอน) กลายเป็นแนวต้านสำคัญที่นักวิเคราะห์จับตามอง หากไม่มีแรงหนุนจากฝั่งซื้อ อาจเกิดการร่วงซ้ำถึงระดับ 2.80 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,892 วอน) ได้
สิ่งที่น่าสนใจคือ พฤติกรรมการขายครั้งนี้จำกัดเฉพาะ XRP เท่านั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ใหญ่รายอื่นอย่าง *บิตคอยน์(BTC)* หรือ *อีเธอเรียม(ETH)* นักวิเคราะห์บางรายมองว่านี่อาจเป็นการทำกำไรจากราคาที่ขึ้นมาของวาฬกลุ่มนี้ หรือเป็นการโยกย้ายเหรียญไปยังแพลตฟอร์มอื่นหรือแปลงเป็นเงินตราปกติ ความเห็นหนึ่งระบุว่าหากเป็นการเคลื่อนไปแลกเงินสด ความเชื่อมั่นระยะกลางของนักลงทุนอาจเผชิญแรงกระทบอย่างมีนัย
นอกจากนี้ สถานการณ์ในสมุดคำสั่งซื้อขายของตลาดเริ่มส่งสัญญาณไม่สู้ดี ความ *ลื่นไหลของสภาพคล่อง* ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า และแรงซื้อที่พยายามดันราคาขึ้นถูกสกัดด้วยแรงขายในทุกระดับ ส่งผลให้ความผันผวนของตลาดอาจเพิ่มสูงขึ้นในระยะใกล้
การเทขายของวาฬในครั้งนี้ถือเป็นมากกว่าเพียงแค่การปรับฐานราคา ‘ความคิดเห็น’ คือ มันสะท้อนความเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่ที่อาจมีผลทางจิตวิทยาต่อตลาดในวงกว้าง ไม่เพียงแค่กระทบระยะสั้น แต่ยังอาจส่งผลถึงแนวโน้มในระยะยาวของ XRP ได้เช่นกัน ขณะนี้ ตลาดกำลังจับตาว่าแนวรับสำคัญที่ 2.80 ดอลลาร์ จะสามารถต้านทานแรงขายต่อเนื่องไว้ได้หรือไม่ ซึ่งจะกลายเป็นตัวชี้วัดสำคัญของแนวโน้มการฟื้นตัวในอนาคต
ความคิดเห็น 0