ราคา *ชิบะอินุ(SHIB)* อาจกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการรีบาวด์ในระยะสั้น แม้จะอยู่ท่ามกลางกระแสขาลงของตลาดคริปโตโดยรวม แต่หลายดัชนีออนเชนและการเคลื่อนไหวของโครงสร้างพื้นฐานหลักของโปรเจกต์กลับส่งสัญญาณ ‘*เชิงบวก*’ ให้กับนักลงทุน
ในสัปดาห์นี้ ราคาของ *ชิบะอินุ* ร่วงลงมากกว่า 9% สอดคล้องกับทิศทางอ่อนตัวของตลาด หลังก่อนหน้านี้เคยมีมูลค่าตลาดสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว แต่ล่าสุดลดลงเหลือเพียงประมาณ 7,300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 10.14 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเริ่มเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ *SHIB* ออกจากศูนย์ซื้อขายแบบรวมศูนย์ (CEX) ไปเก็บรักษาในรูปแบบวอลเล็ตส่วนตัว ซึ่งสะท้อน *แนวโน้มการไหลออกสุทธิ (Net Outflow)* ที่อาจตีความเป็นสัญญาณการสะสมเหรียญ
ปริมาณเหรียญ *SHIB* ที่ยังคงค้างอยู่ในกระดานเทรดลดลงอย่างรวดเร็ว จากเดิม 140.7 ล้านล้านหน่วยเมื่อต้นปี เหลือเพียงประมาณ 85.2 ล้านล้านหน่วย ณ ล่าสุด ชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นในระยะกลางของนักลงทุนอาจเริ่มฟื้นตัว
อีกหนึ่งแรงหนุนสำคัญคือโซลูชันเลเยอร์ 2 ของ *ชิบะอินุ* ที่ชื่อว่า *ชิบาเรียม(Shibarium)* ซึ่งกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเมื่อวันที่ 20 ปริมาณธุรกรรมแตะ 4.8 ล้านรายการ สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ชิบาเรียมถูกออกแบบให้มีการ ‘เบิร์น’ โทเคน *SHIB* บางส่วนทุกครั้งที่เกิดการใช้งาน ซึ่งหมายถึงว่า *ปริมาณโทเคนลดลง* จะยิ่งทำให้เกิดแรงหนุนต่อราคาหากมีการใช้งานมากขึ้น
*เจเรมี ดาวินชี(Jeremie Davinci)* นักลงทุนสายบิตคอยน์(BTC) กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ชิบะอินุจะปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงได้ ก็ต่อเมื่อชิบาเรียมถูกนำมาใช้งานอย่างจริงจัง” พร้อมระบุว่าแม้แพลตฟอร์มจะมี ‘ยูทิลิตี้’ แต่ยังขาดการนำมาใช้ในแอปพลิเคชันที่เป็นรูปธรรม ซึ่งถ้าได้รับการแก้ไข โอกาสที่ *SHIB* จะพุ่งทะยาน “ไปถึงดวงจันทร์” ก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง
ขณะเดียวกัน ความรู้สึกของนักลงทุนก็แสดงให้เห็นถึงความหวังว่าราคาอาจเริ่มฟื้น โดยข้อมูลจาก *CoinMarketCap* เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม ระบุว่า *ชิบะอินุ* อยู่ในอันดับต้น ๆ ของสินทรัพย์ดิจิทัลที่นักเทรดคาดหวังแนวโน้มขาขึ้นมากที่สุด อย่างไรก็ดี ความคาดหวังมากเกินไปก็อาจนำไปสู่การ ‘ปรับฐาน’ ได้เช่นกัน ซึ่งควรต้องระวังเป็นพิเศษ
โดยสรุป ขณะที่การปรับฐานราคาของ *ชิบะอินุ* อาจใกล้สิ้นสุด ปัจจัยเชิงบวกจากการลดลงของปริมาณเหรียญบนกระดาน และการกลับมาคึกคักของ *ชิบาเรียม* อาจเป็นพลังผลักดันหลักในการกลับทิศของราคา อย่างไรก็ตาม การขยายการใช้งานจริงและความผันผวนของตลาดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป
ความคิดเห็น 0