วินด์ทรี เทราเพอุติกส์(Windtree Therapeutics: WINT) บริษัทพัฒนายาใหม่ในสหรัฐ เตรียมถูกถอดออกจากตลาดแนสแด็ก(NASDAQ) หลังไม่สามารถรักษาหลักเกณฑ์การจดทะเบียนได้ แม้จะได้พยายามใช้เหรียญของไบแนนซ์อย่าง บีเอ็นบี(BNB) เป็น ‘สินทรัพย์ยุทธศาสตร์’ แบบใหม่เพื่อพยุงโครงสร้างการเงิน แต่ผลกลับตรงกันข้าม ราคาหุ้นลดฮวบ โดยล่าสุดแนสแด็กแจ้งเตรียมเพิกถอนการจดทะเบียนในวันที่ 19 สิงหาคม 2025 และจะหยุดการซื้อขายในวันที่ 21 สิงหาคม 2025
ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ(SEC)ระบุว่า เหตุผลหลักของการถอดถอนคือราคาหุ้นของวินด์ทรีต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ หรือราว 1,390 บาทเป็นเวลานาน ซึ่งผิดข้อกำหนดการคงสถานะในตลาด แนวทางนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ชัดเจน หลังบริษัทมุ่งหน้าใช้กลยุทธ์ทางคริปโตที่ไม่สามารถคืนความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้
วินด์ทรีประกาศเมื่อกรกฎาคมว่าจะนำ *BNB* มาใช้เป็น ‘ทุนสำรอง’ และรับเงินลงทุนจาก Build and Build Corp. เป็นจำนวน 60 ล้านดอลลาร์ หรือราว 834 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าระดมทุนเพิ่มเติมเป็นจำนวนรวม 520 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 7,228 ล้านบาท ผ่านทางการออกหุ้นเพิ่มทุน อย่างไรก็ตาม กระแสตอบรับไม่เป็นไปตามที่คาด หุ้นดีดเพิ่มขึ้นชั่วคราวจาก 0.90 ดอลลาร์เป็น 1.19 ดอลลาร์ในช่วงสองวันแรก ก่อนจะร่วงหนักจนหายไปกว่า 97% ในช่วง 6 เดือน
ในขณะเดียวกัน ราคาของ *BNB* เองกลับเติบโตถึง 53% ตั้งแต่ต้นปี และล่าสุดซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 850 ดอลลาร์ หรือ 1,181,500 บาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ตัวเหรียญจะมีผลตอบแทนในตลาดที่ดี แต่ความพยายามของวินด์ทรีกลับล้มเหลว ซึ่ง *ความคิดเห็น* มองว่า การนำคริปโตมาใช้แบบผิวเผินโดยไม่วางรากฐานที่มั่นคงอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นจากตลาดมากกว่าสร้างประโยชน์
ในอีกด้าน เทรเชอรี่สไตล์ใกล้เคียงกันจากบริษัทของ *ไมเคิล เซย์เลอร์(Michael Saylor)* ชื่อว่า Strategy ก็ประสบกับราคาหุ้นที่แกว่งตัว โดยลดลง 9% ในสัปดาห์นี้ เหลือ 344 ดอลลาร์ หรือราว 478,160 บาท แม้กระนั้น เมื่อดูในแนวโน้มระยะยาว ก็ยังเติบโตถึง 143% เมื่อเทียบกับปีก่อน และทะยานกว่า 2,200% ในรอบ 5 ปี ทำให้หลายฝ่ายยังมองว่าเป็น ‘การปรับฐานระยะสั้น’
ไมเคิล เซย์เลอร์เพิ่งแจ้งนักลงทุนว่าจะ ‘ผ่อนเกณฑ์การออกหุ้น’ เพื่อระดมทุนในการซื้อ *บิตคอยน์(BTC)* เพิ่ม โดยเน้นการเพิ่มความคล่องตัวด้านการเงินของบริษัท แต่จากมุมมองของผู้ถือหุ้นเดิม นี่อาจหมายถึงความเสี่ยง ‘หุ้นถูกลดสัดส่วน’ เช่นกัน
กรณีของวินด์ทรีจึงสะท้อนให้เห็นอีกหนึ่งบทเรียนว่า แม้จะนำ *BNB* มาเป็นศูนย์กลางกลยุทธ์การเงิน ก็ไม่ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป การผสานโลกคริปโตกับตลาดทุนแบบดั้งเดิมจึงยังเต็มไปด้วยความเสี่ยงและความไม่แน่นอนที่ทุกฝ่ายต้องระวังอย่างใกล้ชิด
ความคิดเห็น 0